โดย นพพล อนุกูลวิทยา

 

 

รูปภาพจาก Paris 2024

 

โอลิมปิก 2024 ที่ปารีสได้จบลงไปเป็นที่เรียบร้อย นอกเหนือจากการที่ทุกคนให้ความสนใจไปที่การแข่งขันกีฬาประเภทต่าง ๆ แล้ว พิธีเปิดโอลิมปิกในครั้งนี้ก็เป็นที่กล่าวถึงกันอย่างมากในหลากหลายวงการ ไม่ว่าจะเป็นความคิดเห็นเชิงบวกหรือเชิงลบก็ตาม ปารีสได้แสดงให้เห็นถึงวิธีคิดใหม่ ๆ ในการจัดงาน ที่ต้องใช้ความคิดสร้างสรรค์และความกล้าหาญอย่างมากในการจัดพิธีเปิดโอลิมปิกกลางแจ้ง ไปจนถึงการเปลี่ยนรูปแบบของพาเหรดนักกีฬาจากประเทศต่าง ๆ เป็นการล่องเรือผ่านแม่น้ำแซน ที่เป็นอีกสัญลักษณ์หนึ่งของประเทศฝรั่งเศสเช่นกัน และการพยายามสร้างการรับรู้และการมองเห็นถึง Iconic อื่น ๆ อย่างเช่น หอไอเฟล ให้ผู้คนได้จดจำสัญลักษณ์ต่าง ๆ ของปารีสให้ได้มากที่สุด แม้ว่ามีความโชคไม่ดีที่อากาศไม่เป็นใจ เกิดฝนตกลงมาขณะมีการจัดพิธีเปิด จนทำให้หลายสิ่งไม่เป็นไปตามแผน แต่ก็ยังมีผู้เฝ้าติดตามการจัดงาน การถ่ายทอดวิธีคิดอย่างใจจดจ่อ ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลที่เกิดขึ้นก็ได้สร้างการพูดถึงปารีสได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

ในการจัดงานอิเวนต์ต่าง ๆ นอกเหนือไปจากคอนเซ็ปต์หรือแนวคิดของงานที่เป็นแกนหลักสำคัญแล้ว ยังมีปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมายที่ทำให้งานชิ้นนั้น ๆ สำเร็จผลตามคาดหรือไม่ นอกเหนือไปจากสภาพภูมิอากาศที่ควบคุมได้ยากแล้ว ยังมีเรื่องการบริหารจัดการต่าง ๆ ตั้งแต่การจัดการการลงทะเบียนหรือซื้อขายบัตร การจัดเวที ระบบแสง สี และเสียง ระบบที่ใช้นำเสนอเนื้อหาของแต่ละชิ้นงาน สิ่งต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนแล้วแต่ต้องอาศัยศาสตร์และศิลป์ประกอบกันขึ้นมาให้งานราบรื่นเป็นไปตามคอนเซ็ปต์ของงานทั้งสิ้น และหากพูดถึงเทคโนโลยีที่ใช้ในการจัดงานก็จะพบว่ามันต้องแฝงตัวเข้าไปอย่างเหมาะสมอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นเทคโนโลยีอย่าง Augmented Reality ที่เข้ามาสร้างสีสันให้กับการแสดงคอนเสิร์ตต่าง ๆ มากไปกว่าแค่การทำ Special Effects ในเชิงกายภาพบนเวทีจัดแสดงเพียงอย่างเดียว หรือการใช้โดรนที่ในช่วงแรกนิยมนำมาใช้เพียงแค่เก็บภาพบรรยากาศของงานในมุมสูง แต่ปัจจุบันนี้กลับกลายมาเป็นส่วนหนึ่งของการแสดงในพิธีเปิดของงานไปแล้ว

ผู้เขียนอยากลองชวนไปสำรวจงานอิเวนต์ทั่วโลก โดยเฉพาะอิเวนต์ที่จัดกันมาแล้วหลายสิบปี ว่าผู้จัดได้หยิบเอาเทคโนโลยีมาปรับใช้อย่างไร เพื่อให้อิเวนต์ที่เคยถูกจัดมาแล้วหลายครั้ง ยังคงน่าตื่นตาตื่นใจ ผู้เข้าร่วมยังรู้สึกสดใหม่และอยากมาซ้ำในปีถัด ๆ ไปอีก

 

รูปภาพจาก All of it Now (AOIN)

 

Coachella: การนำเทคโนโลยีมาผสมผสานกับงานดนตรี

Coachella เทศกาลศิลปะและดนตรีที่จัดขึ้นทุกปีที่มลรัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นเทศกาลที่สาวกแฟนเพลงทั่วโลกต่างกล่าวขานและมุ่งหมายที่จะได้ไปสนุกในงานสักครั้งหนึ่ง Coachella เป็นคล้ายกับงานคอนเสิร์ตอย่าง Big Mountain หรือ Wonderfruit ในประเทศไทย โดยจัดขึ้นกลางแจ้งแบบติดต่อกัน 3 วัน โดยมีสาวกแฟนเพลงของศิลปินต่าง ๆ ไปร่วมงานกว่า 300,000 คน เทคนิคที่ใช้ในการจัดงานที่นอกเหนือจากความนิยมของศิลปินแล้ว ยังมีการใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างประสบการณ์ดนตรีให้ดียิ่งขึ้นเรื่อย ๆ 

 

รูปภาพจาก npr.org

 

Tupac Shakur ศิลปินฮิปฮอปผู้ล่วงลับไปแล้วปรากฏตัวบนเวทีของ Coachella ในรูปแบบของโฮโลแกรมที่กลับมามีชีวิตชีวาและเคลื่อนไหวได้จริง “เทคโนโลยีโฮโลแกรม” นี้ใช้เทคนิคที่เรียกว่า “Pepper’s Ghost” ซึ่งเป็นการฉายภาพสามมิติที่ดูเหมือนจริง เหมือนศิลปินกำลังแสดงสดบนเวที ผู้ชมได้เห็น Tupac แสดงเพลงฮิตของเขาร่วมกับ Dr.Dre และ Snoop Dogg ซึ่งเป็นศิลปินที่ได้รับความนิยมอย่างมากในปัจจุบัน ถือเป็นการหยิบเอาเทคโนโลยีมาผสมผสานประสบการณ์ได้อย่างน่าประทับใจ

นอกจากนั้น ยังมีเทคโนโลยีอย่าง AR (Augmented Reality) ที่ถูกนำมาใช้กับการแสดงสดบนเวทีขณะที่ศิลปินกำลังแสดงอยู่ โดยปกติแล้ว Effect ต่าง ๆ จะเกิดขึ้นบนจอหรือพื้นที่เวทีเท่านั้น แต่ยุคนี้ที่ใคร ๆ ก็ชอบหยิบมือถือขึ้นมาถ่ายคลิปกัน Coachella ก็เลยใส่ Effect ต่าง ๆ ให้ลอยขึ้นบนฟ้าและรอบพื้นที่เวทีแบบสด ๆ ให้สอดคล้องกับรูปแบบโชว์ของศิลปินแต่ละคน ทำให้โชว์นั้นดูน่าตื่นตาตื่นใจมากขึ้น ไม่เพียงแค่คนเข้าร่วมงานจะได้รับประสบการณ์ใหม่ ๆ แบบสนุกกว่าเดิมเท่านั้น แต่คนที่เห็นคลิปที่ถูกถ่ายและแชร์ต่อกันไป ก็ได้รับความรู้สึกสนุกตามไปด้วย

 

รูปภาพจาก virtualexpodubai.com

 

Expo 2020 Dubai: การใช้โดรนในการสร้างโชว์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ

ที่งาน Expo 2020 Dubai ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ งาน World Expo หรือที่มีชื่อทางการในภาษาไทยว่า งานนิทรรศการโลก ถือเป็นงานระดับโลกที่แต่ละประเทศจะมาจัดพาวิลเลียนนำเสนอความน่าสนใจของประเทศตัวเองในด้านต่าง ๆ ซึ่งจัดขึ้นทุก 5 ปี ในแต่ละครั้งของการจัดงานก็จะเปิดให้เข้าชมระยะเวลาประมาณ 6 เดือน และจะหมุนเวียนเจ้าภาพไปในแต่ละประเทศ ซึ่งเมื่อปี 2020 เป็นการจัดงานครั้งล่าสุดที่เมืองดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และในวาระถัดไปในปี 2025 จะจัดขึ้นที่เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น

ในงานเปิดตัวที่ผ่านมาของ Expo 2020 Dubai จะมีช่วงเวลาที่เราแหงนมองขึ้นฟ้า แล้วเห็นจุดแสงไฟที่เคลื่อนไหวได้กระจายตัวเป็นรูปภาพต่าง ๆ คล้ายกับการแปรอักษรบนอัฒจันทร์ ซึ่งจุดแสงไฟเหล่านั้นเกิดจากการใช้โดรนหลายร้อยตัวบินและลอยตัวในตำแหน่งที่คำนวณไว้ให้เกิดเป็นรูปภาพ ซึ่งเป็นการควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ทั้งหมด ถือเป็นการสร้างปรากฏการณ์การใช้โดรนมาเป็นโชว์อันหนึ่งได้น่าสนใจ แทนการยิงเลเซอร์ไฟใส่น้ำพุ ที่จะเห็นได้แค่ในระยะของคนที่อยู่ใกล้เท่านั้น 

รูปภาพจาก Silent Disco King 

 

Glastonbury Festival: เทคโนโลยีการชำระเงิน และ Silent Disco

ที่เมือง Somerset ประเทศอังกฤษ จะมีการจัดงาน Glastonbury Festival ขึ้นทุกปี ซึ่งเป็นงานเทศกาลที่จะมีโชว์ประเภทต่าง ๆ ไม่เพียงเฉพาะดนตรี เช่น ละครเวที ละครสัตว์ คาบาเรต์ โชว์การเต้นรูปแบบต่าง ๆ เป็นต้น โดยมีคนเข้าร่วมงานมากกว่า 200,000 คน ซึ่งในงานก็จะมีสินค้าและบริการต่าง ๆ ขายอยู่ด้วย เช่น อาหารและเครื่องดื่ม ตั๋วเข้าชมกิจกรรมต่าง ๆ เป็นต้น โดยการชำระเงินนั้นใช้ Smart Wristbands ที่สามารถเติมเงินล่วงหน้าและใช้จ่ายได้ภายในงาน ซึ่งช่วยลดความเสี่ยงจากการพกเงินสดและเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้เข้าร่วม เพราะในงานเทศกาลแบบนี้ อาจจะมีการดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ หรือการเต้นต่าง ๆ ตามความสนุก จนทำให้กระเป๋าสตางค์หล่นหาย เทคโนโลยีแบบนี้ก็จะช่วยให้หายห่วงได้มาก

นอกจากนี้ ในงานเทศกาลที่มีกิจกรรมหลากหลายอย่าง Glastonbury Festival ที่ล้วนใช้เสียงดัง เช่น การเปิดเพลงดิสโก้จากดีเจ ซึ่งปกติจะต้องใช้เครื่องเสียงที่มีเสียงดัง ทางงานจึงมีการจัด Silent Disco เป็นคอนเสิร์ตที่ไม่มีเสียงดนตรีออกมาจากลำโพง แต่ผู้เข้าร่วมจะได้รับหูฟังไร้สายที่สามารถเชื่อมต่อกับสัญญาณเสียงของดีเจหรือวงดนตรีที่กำลังแสดงอยู่ และสามารถปรับระดับเสียงหรือเปลี่ยนช่องสัญญาณเพื่อฟังเพลงจากแหล่งต่าง ๆ ได้ตามต้องการ โดยไม่รบกวนผู้เข้าร่วมคนอื่น ๆ แต่ยังคงความสนุกสนานและความมันได้อย่างเต็มที่

 

 

Web Summit: AI ในการจัดการงานและสร้างประสบการณ์ผู้เข้าร่วม

ในงานประชุมด้านเทคโนโลยีที่ใหญ่ที่สุดในโลกอย่าง Web Summit ที่จัดขึ้นที่เมือง Lisbon ประเทศโปรตุเกสในทุกปี จะมีเวทีเสวนา การนำเสนอเทคโนโลยีใหม่ ๆ บูทแสดงสินค้า เวิร์กชอปต่าง ๆ การจับคู่ทางธุรกิจ และกิจกรรมอื่น ๆ เป็นจำนวนมาก ซึ่งในแต่ละปีจะมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 70,000 คน

เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถจัดการกับกิจกรรมและเนื้อหามากมายในงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ Web Summit ได้พัฒนาแอปพลิเคชันที่มี AI คอยช่วยเหลือในด้านต่าง ๆ เช่น การแนะนำกิจกรรมหรือเสวนาที่เหมาะสมกับความสนใจของผู้เข้าร่วม การวางแผนการเข้าร่วมงานตามเวลาที่สะดวก รวมไปถึงการใช้ AI Chatbot ในการตอบคำถามและให้ข้อมูลต่าง ๆ ภายในงาน

นอกจากนี้ AI ยังถูกนำมาใช้ในการวิเคราะห์และสรุปเนื้อหาจากการบรรยายและเสวนาในหลายเวที เพื่อให้ผู้เข้าร่วมสามารถเข้าถึงข้อมูลที่สำคัญได้อย่างรวดเร็ว AI ยังช่วยในการจับคู่ทางธุรกิจระหว่างผู้เข้าร่วมงาน เช่น นักลงทุนกับสตาร์ตอัป หรือผู้ประกอบการกับพันธมิตรทางธุรกิจ ซึ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการสร้างความร่วมมือทางธุรกิจ และลดเวลาในการวางแผนการเข้าร่วมได้อย่างมีประสิทธิภาพ

รูปภาพจาก wonder.co.uk | Rebekah Hanbury

 

Ed Sheeran: แสง สี เสียง และศิลปินที่สอดคล้องลงตัว

Ed Sheeran นักร้องชื่อดังระดับโลก มีการจัดคอนเสิร์ตเวียนทั่วโลก (World Tour) ในรอบที่ผ่านมา การทัวร์รอบที่ชื่อ “÷ Tour” ระหว่างช่วงปี 2017-2019 ถูกจัดขึ้นทั้งหมด 260 ครั้ง ซึ่งคอนเสิร์ตแต่ละครั้งจะมีผู้เข้าชมหลักหมื่นถึงหลักแสน ขึ้นอยู่กับสถานที่ในการจัดแสดง โดยในการทัวร์ครั้งนี้ทำรายได้ไปมากกว่า 27,000 ล้านบาท และตั้งแต่ปี 2022 จนถึงปัจจุบัน Ed Sheeran กำลังออกทัวร์รอบที่ชื่อ “+–=÷× Tour” ซึ่งมีแผนจัดขึ้นตามเมืองต่าง ๆ ทั้งหมด 144 ครั้ง และแม้จะจัดขึ้นหลายร้อยครั้ง แต่ตั๋วก็ยังขายหมดอย่างรวดเร็ว 

การแสดงคอนเสิร์ตนั้น แม้มีเพียงตัวเขาสะพายกีตาร์โปร่งและไมโครโฟนตรงหน้า แต่ก็ยังมีองค์ประกอบอื่นที่ออกแบบโดยใช้เทคโนโลยีแสงและเสียงในคอนเสิร์ต ซึ่งไม่เพียงแต่ทำให้การแสดงดนตรีมีชีวิตชีวามากขึ้น แต่ยังสร้างบรรยากาศที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเหมือนถูกนำพาเข้าสู่โลกของดนตรีอย่างแท้จริง อย่างการใช้โปรเจกเตอร์แบบเลเซอร์เพื่อสร้างภาพเสมือนที่เคลื่อนไหวไปตามจังหวะเพลง หรือการใช้ไฟ LED ที่สามารถเปลี่ยนสีและรูปแบบได้อย่างแม่นยำตามสคริปต์การแสดง นอกจากนี้ยังมีการใช้ระบบเสียง Surround ที่มีความละเอียดสูงในการถ่ายทอดเสียงไปยังทุกมุมของสถานที่จัดงาน เพราะในบางรอบนั้นมีผู้เข้าชมมากกว่าสามแสนคนเลยทีเดียว 

 

รูปภาพจาก abcnews.go.com

 

Super Bowl Halftime Show: เทคโนโลยีการจัดเวทีที่รวดเร็วและมีประสิทธิภาพ

การแข่งขัน Super Bowl ในประเทศสหรัฐอเมริกา ซึ่งมีการถ่ายทอดสดทั่วประเทศ และเป็นรายการที่มีผู้ชมมากเป็นอันดับ 1 ของประเทศ เป็นการถ่ายทอดสดคู่ชิงชนะเลิศกีฬาอเมริกันฟุตบอลในปีนั้น ๆ ซึ่งถือว่าในแต่ละวินาทีของการถ่ายทอดสดจากสนามอเมริกันฟุตบอล เป็นช่วงเวลาที่มีราคามาก ในช่วงพักครึ่งของการแข่งขัน จะมีการแสดงที่เรียกว่า Super Bowl Halftime Show โดยมักจะเป็นศิลปินที่มีชื่อเสียงมาแสดงกลางสนาม ดังนั้น การจัดการเรื่องของเวทีและระบบ Effect ต่าง ๆ จึงต้องรวดเร็วและใช้งานได้เป็นอย่างดี ทั้งการติดตั้งและการถอดออกก่อนจะเริ่มการแข่งขันในครึ่งหลัง

การออกแบบใช้งาน Modular Staging จึงเป็นสิ่งสำคัญในช่วงเวลาอันมีค่าเหล่านี้ ทีมงานจะต้องประกอบเวทีในเวลาที่จำกัด เวทีโมดูลาร์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษจะถูกนำเข้ามาในสนามและประกอบขึ้นในเวลาไม่กี่นาที นอกจากนี้ยังมีการติดตั้งระบบแสง เสียง และอุปกรณ์ต่าง ๆ อย่างรวดเร็ว เพื่อให้การแสดงดำเนินไปอย่างไม่สะดุด เมื่อการแสดงเสร็จสิ้น ทีมงานจะรื้อถอนเวทีออกจากสนามในเวลาอันสั้น เพื่อให้การแข่งขันสามารถดำเนินต่อไปได้ตามกำหนดการ 

 

บทสรุป: เทคโนโลยีกับอนาคตของงานอิเวนต์

หากเรามองไปถึงการจัดงานอิเวนต์ต่าง ๆ ที่ได้ถูกหยิบยกมากล่าวถึงข้างต้น ล้วนเป็นอิเวนต์ที่มีการจัดอย่างต่อเนื่องมาหลายสิบปี ตั๋วเข้าชมก็มีราคาสูง แต่ก็ยังมีผู้เข้าชมเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ในทุกปี เพราะสิ่งสำคัญที่ผู้จัดอิเวนต์เหล่านี้มองหา ไม่ใช่การพยายามลดต้นทุนให้ถูกลง แต่เป็นการเพิ่มคุณค่าที่อยู่ในคอนเซ็ปต์งานนั้นให้กับผู้เข้าร่วมได้มากที่สุด ไม่ใช่เพียงความสะดวกสบาย แต่เป็นวิธีการส่งมอบคุณค่าแก่ผู้เข้าร่วมด้วย 

จากการที่เราได้สำรวจตัวอย่างของเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ถูกนำมาใช้ในงานอิเวนต์ทั่วโลก ไม่ว่าจะเป็นงาน Web Summit คอนเสิร์ตระดับโลก หรือเทศกาลดนตรีชื่อดัง เทคโนโลยีได้แสดงให้เห็นถึงพลังในการเปลี่ยนแปลงวิธีการที่เรามีส่วนร่วมและสัมผัสกับประสบการณ์เหล่านี้ เทคโนโลยีไม่เพียงแต่เพิ่มความสะดวกสบายและประสิทธิภาพในการจัดการงาน แต่ยังช่วยสร้างประสบการณ์ที่ยากจะลืมเลือนให้กับผู้เข้าร่วมงานอีกด้วย และท้ายที่สุด เทคโนโลยี เมื่อรวมกับความคิดสร้างสรรค์ในการนำไปใช้แล้ว จะทำให้อิเวนต์นั้นกลายเป็นที่จดจำให้กับผู้คนที่เข้าร่วมได้ไม่รู้ลืม