สรุปสถานการณ์ท่องเที่ยวตลาดในประเทศ (เดือนมกราคม-มีนาคม 2566)

โดย งานวิเคราะห์ตลาดในประเทศ กองกลยุทธ์การตลาด

วันที่ 10 เมษายน 2566

 

 

ภาพรวมสถานการณ์ท่องเที่ยวตลาดในประเทศ เดือนมกราคม – มีนาคม 2566

สถานการณ์การท่องเที่ยวตลาดในประเทศเดือนมกราคม-มีนาคม 2566 มีทิศทางการฟื้นตัวที่ดีขึ้นอย่างชัดเจน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 42.87 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 49 และมีรายได้ทางการท่องเที่ยว 187,861 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30 ซึ่งทิศทางการท่องเที่ยวที่ดีขึ้นนี้เป็นผลมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 คลี่คลายลง จึงไม่ใช่อุปสรรคหลักต่อการเดินทางท่องเที่ยว และประเทศไทยเปิดประเทศพร้อมกับยกเลิกมาตรการต่าง ๆ เพื่อเอื้อให้การท่องเที่ยวในประเทศพลิกฟื้นกลับมาเท่ากับปีปกติ รวมทั้งเป็นฤดูท่องเที่ยวและมีช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องอย่างวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ส่งผลให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวหรือเดินทางกลับบ้าน ผนวกกับหลายพื้นที่ยังมีอากาศที่หนาวเย็นเหมาะกับการท่องเที่ยวพักผ่อน จึงเป็นแรงกระตุ้นให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยว อีกทั้งยังได้รับปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนดังนี้ 

 

  1. การจัดกิจกรรมจัดโพรโมชันร่วมกับผู้ประกอบการโรงแรมที่พัก ร้านอาหาร และรถเช่า 5 ภูมิภาค ผ่านการ Redeem บัตรเครดิตจากสถาบันการเงินต่าง ๆ
  2. กิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดจาก ททท. และพันธมิตร อาทิ 
    • เทศกาลตรุษจีนในเมืองหลักและเมืองรอง
    • การเพิ่มเที่ยวบินภายในประเทศเชื่อมโยงระหว่างภูมิภาค อย่างเส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน เส้นทางอู่ตะเภา-เชียงใหม่
    • การส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวทางเรือให้กลับมาเป็นที่นิยมอีกครั้ง โดยเฉพาะเส้นทางพัทยา-หัวหิน และเส้นทางสัตหีบ-สงขลา
    • การท่องเที่ยวเสริมสิริมงคลกลุ่มสายมู เส้นทางตามรอยพญานาคและท้าวเวสสุวรรณ
    • การส่งเสริมเที่ยวในประเทศได้ทุกวันผ่านโครงการ 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน 
    • กิจกรรมการตลาด Joint Promotion อาทิ แคมเปญ “มหัศจรรย์เมืองไทยสวยแบบตะโกน”,แคมเปญ “Wonder Deal” สิ้นเดือน เหมือนการเริ่มต้นใหม่, แคมเปญ “CODE ลับ 365 พาเพื่อนเที่ยว”
  3. มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากโครงการช้อปดีมีคืน และเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 เพื่อกระตุ้นให้คนไทยเกิดการใช้จ่ายและท่องเที่ยวภายในประเทศเพิ่มขึ้น ขณะที่ภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ค่าครองชีพและราคาพลังงานที่สูง ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญต่อการวางแผนการเดินทางท่องเที่ยว 

 

แต่อย่างไรก็ดี ความต้องการออกเที่ยวของคนไทยจะทำให้มีการปรับเปลี่ยนรูปแบบการเดินทางท่องเที่ยวให้เหมาะสมกับกำลังซื้อที่มี ทั้งในรูปแบบของการลดจำนวนวันเดินทางให้น้อยลง เลือกเที่ยวระยะใกล้ และใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น โดยแต่ละภูมิภาคมีสถานการณ์ท่องเที่ยวดังนี้

 

 

กรุงเทพมหานคร กลับมาฟื้นตัวดีขึ้นหลังซบเซาจากพิษ COVID-19 มาเป็นเวลาสองปี โดยคาดว่ามีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 7.77 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 และมีรายได้ทางการท่องเที่ยว 40,469 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 30

ซึ่งมีปัจจัยสนับสนุนจากการที่ภาครัฐ ททท. และเอกชนร่วมกันจัดกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ 

  • งานเคานต์ดาวน์ “Central World Bangkok Countdown 2023”
  • กิจกรรมฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ท่ามกลางทัศนียภาพริมแม่น้ำเจ้าพระยาที่งดงาม ณ ศูนย์การค้าไอคอนสยาม เพื่อตอกย้ำการเป็น “Global Countdown Destination”
  • คอนเสิร์ต BLACKPINK WORLD TOUR [BORN PINK] คอนเสิร์ตเอเชียทัวร์ที่ใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ศิลปินเกิร์ลกรุ๊ปในวงการ K-POP ณ สนามศุภชลาศัย
  • การจัดงานประกาศรางวัลที่ยิ่งใหญ่และเก่าแก่ที่สุดของวงการ K-POP “37th Golden Disc Awards” ที่มีศิลปินผู้ถูกเสนอชื่อเข้าชิงตบเท้ามาร่วมงานและโชว์การแสดงสุดพิเศษเกือบ 20 ชีวิต
  • เทศกาลตรุษจีนย่านถนนเยาวราช 

ส่งผลให้เกิดการเดินทางเข้าพื้นที่กรุงเทพมหานครกันอย่างคึกคัก

 

 

 

ภาคกลาง (รวมภาคตะวันตก) เป็นภูมิภาคแรกที่มีการฟื้นตัวได้เร็วของจำนวนการเดินทางท่องเที่ยว ซึ่งในไตรมาสนี้คาดว่าจะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 12.87 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 78 และมีรายได้ทางการท่องเที่ยว 35,957 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 32 ทั้งนี้เป็นผลมาจากความได้เปรียบของระยะเวลาในการเดินทางที่เที่ยวง่ายเที่ยวสั้นวันเดียวจบ ค่าใช้จ่ายไม่สูง สอดคล้องกับสภาพเศรษฐกิจที่เป็นอยู่ 

กอปรกับมีปัจจัยเกื้อหนุนจากจัดกิจกรรมกระตุ้นส่งเสริมตลาดในประเทศ อาทิ 

  • งานยอยศยิ่งฟ้า อยุธยามรดกโลก ประจำปี 2565 จ.พระนครศรีอยุธยา 
  • เทศกาลดนตรี K-POP “KCON 2023 THAILAND” ณ Impact Arena เมืองทองธานี จ.นนทบุรี 
  • เทศกาลตรุษจีน จ.ราชบุรี และสุพรรณบุรี 
  • โครงการท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์สร้างสรรค์ในเส้นทางแรก “สามเหลี่ยมมหัศจรรย์ของทวารวดี” ในพื้นที่ จ.ราชบุรี สุพรรณบุรี และนครปฐม 
  • การจัดแข่งขันวิ่ง Kilo Run ครั้งที่ 1 จ.เพชรบุรี
  • กิจกรรมทริปดูวาฬบรูด้า จ.สมุทรสาคร 
  • กิจกรรมแต่งไทยเที่ยวงานแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มหาราช จ.ลพบุรี

 ซึ่งจากปัจจัยที่กล่าวมา ส่งผลให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นตลอดทั้ง 3 เดือนของไตรมาสนี้

 

 

 

ภาคตะวันออก สถานการณ์ท่องเที่ยวมีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง คาดว่ามีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 6.38 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 39 และมีรายได้ทางการท่องเที่ยว 33,267 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 

โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาด อาทิ 

  • กิจกรรมนั่งรถไฟ KIHA 183 ย้อนรอยประวัติศาสตร์เมืองแปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งได้รับความนิยมจากคนกรุงเทพฯ โดยเฉพาะกลุ่ม GenY
  • การแข่งขันเจ็ตสกีและเรือเร็วท้องถิ่นเมืองพัทยา
  • Walk and Run ไปด้วยกันไปได้ไกล จ.ชลบุรี 
  • โครงการ Rayong Eat at Ease ส่งเสริมการเดินทางของกลุ่ม Corporate จากสถาบันการศึกษาและบริษัทเอกชนในพื้นที่กรุงเทพฯ และจังหวัดรอบ ๆ ระยอง 
  • การเปิดแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์คใหม่ของปางช้างระยอง (Pangchang Rayong) 

จากกิจกรรมที่กล่าวมาส่งผลให้ทุกจังหวัดในภาคตะวันออกมีการเติบโตสูง แม้ว่า จ.ปราจีนบุรีจะมีปัจจัยลบจากเหตุการณ์วัตถุกัมมันตรังสีซีเซียม-137 สูญหายจากโรงไฟฟ้าไอน้ำ และพบว่ามีการปนเปื้อนแพร่กระจายในบางพื้นที่ของปราจีนบุรี ซึ่งได้สร้างความวิตกกังวลต่อคนไทยบางกลุ่มให้ตัดสินใจเลื่อนหรือชะลอการเดินทางเข้าพื้นที่ไปก่อน ส่งผลให้สถานการณ์ท่องเที่ยวเดือนมีนาคมของปราจีนบุรีลดลงเล็กน้อย นอกจากนี้ จ.นครนายกเกิดไฟป่าช่วงปลายเดือนมีนาคม 2566 ส่งผลให้สถานการณ์ท่องเที่ยวเริ่มแผ่วลง แต่ปัจจัยลบทั้ง 2 จังหวัดเกิดขึ้นในระยะเวลาสั้น ๆ จึงไม่ส่งผลกระทบมากนักต่อภาพรวมทางการท่องเที่ยวของภาคตะวันออก

 

 

 

ภาคใต้ เริ่มมีการฟื้นตัวที่ดีหลังจากที่ตกอยู่ในภาวะทรุดตัวมานาน โดยคาดว่ามีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 4.15 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 84 และมีรายได้ทางการท่องเที่ยว 25,141 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 29 ซึ่งการฟื้นตัวในไตรมาสนี้ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากการกระตุ้นการเดินทางท่องเที่ยวภายในภูมิภาคผ่านการจัดกิจกรรมโครงการ 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย เที่ยวได้ทุกวัน 

ผนวกกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมเที่ยวข้ามภาค อาทิ 

  • เที่ยวตามรอยโลเคชั่นยอดฮิตของกองถ่ายหนัง อย่างอุทยานแห่งชาติอ่าวพังงา ย่านเมืองเก่าภูเก็ต 
  • กิจกรรมล่องเรือคาตามารันและซันเซ็ตดินเนอร์..ความหรูที่สัมผัสได้ใน จ.ภูเก็ต กระบี่ และพังงา 
  • การส่งเสริมท่องเที่ยว Workation จ.พังงา 

นอกจากนี้ ยังมีบล็อกเกอร์เพจท่องเที่ยวรีวิวนั่งรถไฟเที่ยวเส้นทาง 3 จังหวัดชายแดนใต้และเส้นทางหาดใหญ่ ทำให้เกิดกระแสตามรอยนั่งรถไฟเที่ยวในกลุ่มนักท่องเที่ยว GenY วัยทำงาน ขณะเดียวกัน มาตรการเราเที่ยวด้วยกันเฟส 5 มีส่วนช่วยดึงท่องเที่ยวภาคใต้ให้ฟื้นตัวมากขึ้น เพราะราคาโรงแรมที่พักอยู่ในระดับที่คนไทยเอื้อมถึง ซึ่งจากปัจจัยต่าง ๆ ส่งผลให้ภาพรวมท่องเที่ยวภาคใต้มีการเติบโตเพิ่มขึ้น

 

 

 

ภาคเหนือ มีการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยคาดว่ามีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 5.67 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 28 และมีรายได้ทางการท่องเที่ยว 37,501 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 22 ซึ่งเป็นผลมาจากเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ที่สภาพอากาศหนาวเย็นจากประเทศจีนลงมาปกคลุมหลายจังหวัดของภาคเหนือ ทำให้อากาศเย็นลงต่อเนื่อง ส่งผลให้ในช่วงสองเดือนเกิดการเดินทางเข้าภาคเหนือเป็นจำนวนมาก 

ผนวกกับมีปัจจัยส่งเสริมจากกิจกรรมของ ททท. ร่วมกับพันธมิตร อาทิ 

  • กิจกรรม “วิ่งเติมรัก กระซิบฮักน่าน” เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวสายรักสุขภาพให้เข้ามาร่วมกิจกรรมใน จ.น่าน 
  • การจัดโพรโมชันเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม เพื่อส่งเสริมการขายบัตรโดยสารของสายการบินไทยไลอ้อนแอร์ เส้นทางดอนเมือง-น่าน-ดอนเมือง ให้แก่ผู้ที่เกิดปีเถาะ 
  • การจัดแพ็กเกจท่องเที่ยวให้กลุ่ม Silver Age “เมืองลี้ที่ไม่ลับ ย้อนวันวานนั่งรถม้าชมบ้านเก่า” จ.ลำปาง
  • กิจกรรม “พิชิตยอด 2,102 Msl ภูสอยดาว” จ.อุตรดิตถ์ 
  • Thailand POP & JAZZ Festival 2023 จ.เชียงใหม่ 
  • งาน World Tea & Coffee Expo 2023 จ.เชียงใหม่ 
  • จิบกาแฟแลช้าง จ.ลำปาง 

ขณะที่ปลายเดือนกุมภาพันธ์-มีนาคม ประสบปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ซึ่งเกิดขึ้นทุกปี แต่ปีนี้มีสภาพอากาศที่รุนแรงมาก จนทำให้เชียงใหม่เป็นเมืองที่อากาศแย่ที่สุดอันดับ 1 ของโลกอย่างต่อเนื่องตลอดทั้งเดือนมีนาคม นอกจากนี้บางอำเภอใน จ.เชียงราย แม่ฮ่องสอน และน่าน ถูกประกาศให้ติด 10 อันดับเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดของประเทศไทยและไม่มีทีท่าว่าจะทุเลาเบาบางลง ส่งผลให้สถานการณ์ท่องเที่ยวของ 4 จังหวัดในเดือนมีนาคมมีแนวโน้มชะลอตัวลง แต่เมื่อพิจารณาภาพรวมทั้งไตรมาสแล้ว ยังจัดว่ามีการเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา

 

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการเติบโตเพิ่มขึ้น คาดว่ามีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 6.01 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 87 และมีรายได้ทางการท่องเที่ยว 15,525 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 36 โดยปัจจัยสนับสนุนหลัก ๆ ยังคงมาจากกระแสการเดินทางท่องเที่ยวตามรอยพญานาค ท้าวเวสสุวรรณ และองค์พญาปุริสารท ของกลุ่มสายมูทั้งจากภายในภูมิภาคและข้ามภาค 

ผนวกกับการจัดกิจกรรมกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเข้าพื้นที่ อาทิ  

  • ท่องเที่ยววิถีชุมชน BURIRAM ถิ่นภูเขาไฟ ไดโนเสาร์
  • บุรีรัมย์ มาราธอน 2023
  • เทศกาลตรุษจีนที่โคราช 
  • เส้นทางไหว้พระขอพร 8 สิ่งศักดิ์สิทธิ์ จ.อุดรธานี
  • การแข่งขัน Big Bike Iron Man Rally จ.อุดรธานี 
  • งาน Flora Park “7 มหัศจรรย์ งานศิลป์ ดินแดนแห่งความสุข ผีเสื้อ ดอกไม้ ศิลปะ ธรรมชาติ” ณ สวนดอกไม้ Flora Park อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา

 

 

Share This Story !

2.6 min read,Views: 5577,

Related projects

  • ¡Hola! Spanish Travelers

    พฤษภาคม 17, 2024

  • ‘เรื่องเล่น’ เรื่องเล็กน้อยมหาศาล

    พฤษภาคม 17, 2024

  • ‘DESERT SUPERCITY’ มหานคร แห่งทะเลทราย

    พฤษภาคม 17, 2024