สถานการณ์ท่องเที่ยวตลาดในประเทศ เดือนมกราคม-มีนาคม 2567
โดย งานวิเคราะห์ตลาดในประเทศ กองกลยุทธ์การตลาด วันที่ 26 มีนาคม 2567
ภาพรวมสถานการณ์ท่องเที่ยวตลาดในประเทศ เดือนมกราคม-มีนาคม 2567
สถานการณ์การท่องเที่ยวตลาดในประเทศเดือนมกราคม-มีนาคม 2567 มีการเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 41.18 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 10 และมีรายได้ทางการท่องเที่ยว 228,100 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เนื่องจากเป็นฤดูท่องเที่ยวและมีช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องอย่างวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ส่งผลให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวหรือเดินทางกลับบ้าน รวมทั้งหลายพื้นที่ยังมีอากาศที่หนาวเย็นเหมาะกับการท่องเที่ยวพักผ่อน จึงเป็นแรงกระตุ้นให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยว ผนวกกับปัจจัยสนับสนุนจากภาครัฐและเอกชนดังนี้
- กิจกรรม Amazing Thailand Countdown 2024 ถือเป็นไฮไลท์ของกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวปีใหม่ในหลายพื้นที่ที่ ททท. ดำเนินการจัดกิจกรรมและสนับสนุน อาทิ กรุงเทพมหานคร นครราชสีมา เชียงใหม่ ขอนแก่น นครพนม ภูเก็ต สงขลา ประจวบคีรีขันธ์
- กิจกรรมส่งเสริมทางการตลาดจาก ททท. และพันธมิตร อาทิ โครงการเที่ยวได้ทุกวัน 365 วัน มหัศจรรย์เมืองไทย, เทศกาลตรุษจีนในเมืองหลักและเมืองรอง, การส่งเสริมกิจกรรมชูจุดขาย 5F Soft Power ผ่านงานเทศกาลประเพณี อาหารถิ่นและอาหาร Michelin, การส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวสายบุญ สายมู เสริมดวงปีมะโรง 2567 ด้วยการร่วมมือกับสายการบินภายในประเทศอย่าง AirAsia
- การเพิ่มจำนวนเที่ยวบินของสายการบินภายในประเทศ เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางข้ามภูมิภาค อาทิ สายการบิน Thai Vietjet เส้นทางเชียงราย-ภูเก็ต สายการบิน AirAsia เส้นทางอุดรธานี-ภูเก็ต
- มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศอย่าง “Easy E-Receipt” นอกจากจะส่งเสริมให้คนไทยเกิดการใช้จ่ายสินค้าและบริการเพิ่มขึ้นแล้ว ยังช่วยกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายเพื่อการท่องเที่ยวได้อีกทางหนึ่ง โดยประชาชนสามารถนำค่าอาหารในโรงแรม ค่าซื้อแพ็กเกจทัวร์ท่องเที่ยวในประเทศ และค่าที่พักโรงแรม/ค่าบริการนำเที่ยว ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม – 15 กุมภาพันธ์ 2567 มาหักลดหย่อนภาษีในปีภาษี 2567 ได้ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 50,000 บาท ซึ่งส่วนใหญ่จะกระจุกตัวอยู่ในจังหวัดท่องเที่ยวหลัก
- กระแสเที่ยวตามรอย “คัลแลนกับพี่จอง” ยูทูบเบอร์สายท่องเที่ยวชาวเกาหลีใต้ที่มีผู้ติดตามกว่า 1 ล้านคน กำลังได้รับความสนใจจากแฟน ๆ ชาวไทย ส่งผลให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวตามรอย 2 หนุ่ม ทั้งในพื้นที่ท่องเที่ยวอุทยานแห่งชาติและแหล่งท่องเที่ยวต่าง ๆ มากขึ้น
ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวช่วยกระตุ้นให้สถานการณ์ท่องเที่ยวในประเทศมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี แต่เป็นการเติบโตด้านจำนวนการเดินทางมากกว่ารายได้ทางการท่องเที่ยว เพราะพฤติกรรมการใช้จ่ายที่ลดลงจากผลภาวะเศรษฐกิจในประเทศ ค่าครองชีพและหนี้ครัวเรือนที่สูงขึ้น ทำให้คนไทยปรับลดจำนวนวันท่องเที่ยวให้น้อยลงและเน้นเที่ยวระยะใกล้เพิ่มขึ้น อีกทั้งคนไทยมีแนวโน้มเที่ยวเมืองรองที่มีค่าใช้จ่ายถูกกว่าเมืองหลักเพิ่มมากขึ้น อาทิ นครนายก ราชบุรี นครศรีธรรมราช ที่มีอัตราการเติบโตของจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเพิ่มสูง 40% นอกจากนี้ คนไทยที่มีรายได้ประจำมั่นคงและกลุ่มที่มีรายได้สูงเลือกที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศ เนื่องจากมีพฤติกรรมชื่นชอบเที่ยวต่างประเทศเป็นทุนเดิม กอปรกับจังหวัดท่องเที่ยวหลักอย่างภูเก็ต เกาะสมุย มีค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวใกล้เคียงกับการเที่ยวต่างประเทศในแถบเอเชีย อีกทั้งได้รับแรงหนุนจากสายการบินที่ร่วมกันจัดทำโพรโมชันราคาบัตรโดยสารเส้นทางที่เป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยม อาทิ ญี่ปุ่น จีน ไต้หวัน สิงคโปร์ เวียดนาม และซิดนีย์ รวมทั้งองค์การส่งเสริมการท่องเที่ยวของประเทศต่าง ๆ ได้ร่วมออกบูธจำหน่ายแพ็กเกจท่องเที่ยวในงานเที่ยวทั่วไทย ไปทั่วโลก ครั้งที่ 29 (Thai International Travel Fair 2024) ที่กรุงเทพมหานคร ยิ่งเป็นข้อมูลให้เห็นความคุ้มค่ามากกว่า ส่งผลให้กลุ่มที่มีกำลังซื้อกลุ่มนี้เลือกออกเที่ยวต่างประเทศ ซึ่งถือเป็นปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบต่อภาพรวมรายได้ทางการท่องเที่ยวในประเทศ
อย่างไรก็ตาม แม้จะมีปัจจัยอุปสรรคมาฉุดรั้งรายได้ท่องเที่ยว แต่การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศยังมีแนวโน้มการเติบโตที่ดี โดยแต่ละภูมิภาคมีสถานการณ์ท่องเที่ยวดังนี้
กรุงเทพมหานคร
มีการเติบโตเพิ่มขึ้น คาดว่ามีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 8.03 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 และมีรายได้ทางการท่องเที่ยว 42,254 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 ทั้งนี้เป็นผลจาก ททท. และภาคเอกชนร่วมกันจัดกิจกรรมการตลาดเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจัดกิจกรรมฉลองค่ำคืนส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เคาท์ดาวน์ ภายใต้แคมเปญ “Amazing Thailand Countdown 2024” ที่ศูนย์การค้า Central World, ศูนย์การค้า ICON SIAM การจัดกิจกรรมเทศกาลตรุษจีนเยาวราชและวันหยุดยาวเนื่องในวันมาฆบูชา ซึ่งกรุงเทพมหานครเป็นพื้นที่ที่ชาวไทยนิยมเดินทางมาไหว้พระขอพรเสริมมงคลชีวิตตามศาลเจ้าและวัดต่าง ๆ รวมทั้งได้แรงหนุนจากการเปิดให้ประชาชนร่วมสักการะพระบรมสารีริกธาตุและพระอรหันตธาตุของพระสารีบุตรและพระโมคคัลลานะ ณ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง เป็นเวลา 9 วัน นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมคอนเสิร์ตต่าง ๆ ทั้งจากศิลปินไทยและต่างชาติ อาทิ กาลครั้ง 5 TATTOO COLOUR FEST ที่อิมแพ็ค อารีน่า เมืองทองธานี, Coldplay Music of The Spheres World Tour Bangkok ที่สนามราชมังคลากีฬาสถาน และ Ed Sheeran ‘+ – = ÷ x’ Mathematics Tour Bangkok 2024 สนามราชมังคลากีฬาสถาน ส่งผลให้ผู้คนทั้งจากจังหวัดปริมณฑลและจังหวัดใกล้ ๆ เดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่กรุงเทพมหานครเป็นจำนวนมาก
ภาคกลาง (รวมภาคตะวันตก)
มีการเติบโตเพิ่มขึ้น คาดว่ามีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 12.48 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 และมีรายได้ทางการท่องเที่ยว 44,504 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 เพราะเป็นภาคที่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ตลอดทั้งปีและมีการใช้จ่ายไม่สูง สอดคล้องกับพฤติกรรมคนไทยที่ต้องปรับตัวตามกำลังซื้อที่มีในปัจจุบัน ขณะเดียวกันภูมิภาคนี้มีวัดและศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงเป็นที่เคารพสักการะกระจายอยู่หลายจังหวัด จึงเป็นพื้นที่ที่กลุ่มสายบุญและสายมูนิยมเดินทางเข้ามาเป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะช่วงวันตรุษจีนและวันหยุดยาวเนื่องในวันมาฆบูชา ที่คนไทยพาครอบครัวและคู่รัก/เพื่อน เดินทางไปไหว้พระทำบุญ แก้ปีชง พร้อมกับพักผ่อนและทำกิจกรรมร่วมกัน เช่น รับประทานอาหาร และท่องเที่ยวทั้งแบบพักค้างและแบบเช้าไปเย็นกลับ อาทิ พระนครศรีอยุธยา ราชบุรี สุพรรณบุรี สมุทรสงคราม สมุทรสาคร นอกจากนี้ ยังได้รับแรงหนุนจากการจัดกิจกรรมทั้งจาก ททท. ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชน ชูจุดขาย Soft Power อย่างงานไหว้ครูมวยไทย จ.พระนครศรีอยุธยา และกิจกรรมศิลปะการป้องกันตัวแบบไทย (Fight) : งานมหัศจรรย์ วันมวยไทย ดังไกลสู่ชาวโลก (Amazing Muay Thai World Festival 2024) ณ อุทยานราชภักดิ์ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมถึงการจัดกิจกรรมต่าง ๆ อาทิ การจัดงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัยและกิจกรรมท่องเที่ยวในเวลากลางคืน “Nasatta Light Festival Winter Illumination 2024” ที่ ณ สัทธา อุทยานไทย จ.ราชบุรี, การเปิดให้ชมพระราชวังจันทรเกษมหรือวังหน้า จ.พระนครศรีอยุธยา ในช่วงค่ำคืน (Night at The Palace) ที่สามารถเชื่อมโยงกับโปรแกรมเที่ยววัดไชยวัฒนารามและวัดราชบูรณะที่เปิดให้เข้าชมยามค่ำคืนด้วยเช่นกัน ตลอดจนการประชาสัมพันธ์เส้นทางท่องเที่ยวคนโสด ปี 2567 ในธีม “เรื่องของเขา เราแอบฟิน” ชวนกลุ่มคนโสดออกเดินทางไปสัมผัสและค้นหาประสบการณ์ท่องเที่ยวจากแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติใน 13 จังหวัดในภาคกลาง อาทิ ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี กาญจนบุรี ชัยนาท ลพบุรี สิงห์บุรี ราชบุรี และนครปฐม และการจัดกิจกรรมท่องเที่ยวด้วยรถไฟไทยสไตล์ญี่ปุ่น KIHA 183 ไปยังจังหวัดท่องเที่ยวใกล้ ๆ ในช่วงวันเสาร์และอาทิตย์ เส้นทางกรุงเทพฯ สู่ลพบุรี เพชรบุรี และกาญจนบุรี และเส้นทางท่องไปกับความสุขเหนือน้ำ นั่งรถไฟเที่ยวเขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ จ.สระบุรี ซึ่งได้รับการตอบรับเป็นอย่างดีจากคนไทยที่ชื่นชอบการเดินทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟ และผู้ที่อยากสัมผัสประสบการณ์ใหม่ด้วยการนั่งรถไฟเที่ยว ส่งผลให้สถานการณ์ท่องเที่ยวในภูมิภาคนี้มีแนวโน้มการเติบโตเพิ่มขึ้น
ภาคตะวันออก
มีการเติบโตเป็นอย่างดี คาดว่ามีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 5.57 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 6 และมีรายได้ทางการท่องเที่ยว 40,594 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 9 เนื่องจากเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวทางทะเลในจังหวัดแม่เหล็กอย่างชลบุรี ตราด และระยอง ผนวกกับมีปัจจัยสนับสนุนจากการจัดกิจกรรมส่งเสริมตลาด อาทิ งานเทศกาล “Bangsaen Koff Fest” บริเวณหาดบางแสน จ.ชลบุรี งานประเพณีทางศาสนาและความเชื่อที่จัดขึ้นเป็นประจำทุกปี อาทิ งานประเพณีนมัสการรอยพระพุทธบาทเขาคิชฌกูฏ จ.จันทบุรี งานเทศกาลว่าวนานาชาติ “PATTAYA INTERNATIONAL KITE ON THE BEACH 2024” บริเวณริมชายหาด เมืองพัทยา จ.ชลบุรี การแข่งขันกอล์ฟสตรี “Honda LPGA THAILAND 2024” จ.ชลบุรี ซึ่งมีนักกอล์ฟชาวไทยและนักกอล์ฟระดับโลกร่วมการแข่งขัน รวมทั้งสิ้น 72 คน งาน “8 Riew Feel แฟ Coffee & Friends” จ.ฉะเชิงเทรา กิจกรรมนั่งรถไฟ KIHA 183 ย้อนรอยประวัติศาสตร์เมืองแปดริ้ว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งได้รับความนิยมจากคนกรุงเทพฯ จากกิจกรรมที่กล่าวมาส่งผลให้ทุกจังหวัดในภูมิภาคภาคตะวันออกมีการเติบโตสูง
ภาคใต้
มีการเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดีขึ้น โดยคาดว่ามีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 3.93 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 8 และมีรายได้ทางการท่องเที่ยว 35,458 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เนื่องจากเป็นฤดูกาลท่องเที่ยวทางทะเลของฝั่งอันดามัน กอปรกับหน่วยงานภาครัฐ ททท. และเอกชนมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการตลาด อาทิ การส่งเสริมเส้นทางท่องเที่ยวทางทะเล ผ่านกิจกรรมดำน้ำจากชุมพรไปยังเกาะเต่าและเกาะสมุย, กิจกรรม Exclusive ท่องเที่ยววันธรรมดาที่สุดว้าว ชวนคนวัยเก๋าอายุตั้งแต่ 55 ปีขึ้นไปมาเที่ยวกระบี่, ปั่นเปิดฟ้าท่องเที่ยวกระบี่ (Andaman Cycling at Krabi), โครงการเที่ยวตรังปังปุริเย่ 2 : กิจกรรมกินเที่ยวฟิน เช็คอินตรัง, วันธรรมดา for destiny @สุราษฎร์ธานี, งานประเพณีมาฆบูชาแห่ผ้าขึ้นธาตุ จ.นครศรีธรรมราช, กิจกรรม Awakenest Festival Koh Phangan 2024, เทศกาลโคมไฟภูเก็ต 2024, มหกรรมว่าวประเพณี และว่าวนานาชาติ และว่าวไทย 4 ภาค ที่ จ.สตูล, กตัญญูคู่ฟ้า มหาสมโภชเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยวปัตตานี นอกจากนี้ รัฐบาลยังสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวจังหวัดชายแดนใต้ “เที่ยวใต้ สุดใจ” เพื่อกระตุ้นการท่องเที่ยวที่ จ.ยะลา ซึ่งจากปัจจัยต่าง ๆ ส่งผลให้สถานการณ์ท่องเที่ยวภาคใต้มีการเติบโตเพิ่มขึ้น
ภาคเหนือ
มีการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยคาดว่ามีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 6.10 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 และมีรายได้ทางการท่องเที่ยว 42,622 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 4 เนื่องจากเดือนมกราคม-กุมภาพันธ์ อยู่ในช่วงฤดูท่องเที่ยวของภาคที่มีสภาพอากาศเย็นสบายเหมาะแก่การเดินทางท่องเที่ยว รวมทั้งเป็นฤดูกาลชมดอกนางพญาเสือโคร่งหรือซากุระเมืองไทยที่กำลังบานสะพรั่งบนยอดดอยยอดภู ทำให้มีนักท่องเที่ยวออกไปสัมผัสอากาศหนาวและสายแคมป์ปิงออกไปเที่ยวแบบค้างคืนมากขึ้น นอกจากนี้ ยังได้รับปัจจัยส่งเสริมจากกิจกรรมของ ททท. ร่วมกับพันธมิตรเพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทางเข้าภูมิภาคเพิ่มขึ้น อาทิ กิจกรรม Chiang Mai Coffee Week 2024, กิจกรรมนุ่งโจง ห่มสไบ เที่ยวซุโขทัย Light up จ.สุโขทัย, กิจกรรม Amazing Thailand Wawee Festival จ.เชียงราย, รักษ์ป่าน่านเมาเท่น รัน ครั้งที่ 4 จ.น่าน, Chiang Mai Blooms Flowers on the table : Secret Garden ณ อุทยานหลวงราชพฤกษ์ จ.เชียงใหม่, งานวันมาฆบูชา สืบสานตำนานสองเจดีย์ธาตุ องค์พระธาตุเจ้าหริภุญชัยและเจดีย์ปทุมวดี จ.ลำพูน ซึ่งจากปัจจัยดังกล่าวช่วยกระตุ้นให้สถานการณ์ท่องเที่ยวภาคเหนือมีการเติบโตที่ดี โดยพฤติกรรมการเดินทางท่องเที่ยวของภาคเหนือ ส่วนใหญ่เป็นการเดินทางภายในภูมิภาคเป็นหลัก รองลงมาคือการเดินทางท่องเที่ยวข้ามภาคทั้งจากกรุงเทพมหานครและภาคใต้ สะท้อนจากการเพิ่มจำนวนเที่ยวบินของสายการบิน AirAsia เส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงใหม่ จากเดิม 11 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มเป็น 18 เที่ยวบินต่อวัน และเส้นทางกรุงเทพฯ-เชียงราย จากเดิม 4 เที่ยวบินต่อวัน เพิ่มเป็น 6 เที่ยวบินต่อวัน และการเปิดเส้นทางบินเชียงราย-ภูเก็ต จำนวน 4 เที่ยวบินต่อวันของสายการบิน Thai Vietjet ยิ่งตอกย้ำให้เห็นว่าปริมาณการเดินทางท่องเที่ยวข้ามภาคยังคงมีอยู่
ขณะที่ช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม ภาคเหนือจะประสบปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ซึ่งปีนี้มีสภาพอากาศที่รุนแรงไม่แตกต่างจากปีที่ผ่านมา โดย 6 จังหวัดได้แก่ แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน พะเยา และตาก มีค่าฝุ่นเกินเกณฑ์มาตรฐานในระดับสีแดง ส่งผลให้สถานการณ์ท่องเที่ยวของ 6 จังหวัดในเดือนมีนาคมมีแนวโน้มชะลอตัวลง นอกจากนี้ ค่าฝุ่นได้ส่งผลกระทบต่อเที่ยวบินเส้นทางลำปาง-แม่ฮ่องสอน เนื่องจากหมอกควันปกคลุมในพื้นที่ อีกทั้งอุทยานแห่งชาติแม่วงก์ จ.กำแพงเพชร มีการยกเลิกการท่องเที่ยวและการพักแรมชั่วคราว เนื่องจากปัญหาไฟป่าและหมอกควัน อย่างไรก็ตาม ผลกระทบดังกล่าวเกิดขึ้นเฉพาะบางจังหวัดในช่วงเดือนมีนาคมเท่านั้น ซึ่งเมื่อพิจารณาภาพรวมของภูมิภาคทั้งไตรมาสแล้ว ยังจัดว่ามีการเติบโตเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
มีการเติบโตเพิ่มขึ้น คาดว่ามีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 5.06 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 16 และมีรายได้ทางการท่องเที่ยว 22,668 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 17 เนื่องจากเป็นฤดูท่องเที่ยวและมีช่วงวันหยุดยาวต่อเนื่องอย่างวันส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ ส่งผลให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวหรือเดินทางกลับบ้าน ผนวกกับแหล่งท่องเที่ยวตามยอดดอยมีอากาศที่หนาวเย็นเหมาะกับการท่องเที่ยวพักผ่อน นอกจากนี้ยังได้รับปัจจัยสนับสนุนหลัก ๆ จากกิจกรรมส่งเสริมการตลาดของ ททท. ร่วมกับพันธมิตร อาทิ กิจกรรมท่องเที่ยวเส้นทางสายบุญ สายมู เชื่อมโยงระหว่างจังหวัดภายในภาคและข้ามภูมิภาค, เทศกาลสวนดอกไม้ฤดูหนาว Enchanted Flora Park อ.วังน้ำเขียว จ.นครราชสีมา, Dark Sky Star Party 2024 ท่องเที่ยวดูดาว ณ อุทยานแห่งชาติผาแต้ม อ.โขงเจียม จ.อุบลราชธานี, กิจกรรม “ขอนแก่น กิน เที่ยว พัก มักม่วน” โดยจัดทำบัตรโดยสาร 3-day pass เดินทางด้วยรถสาธารณะขอนแก่นซิตี้บัส พร้อมรับสิทธิพิเศษจากร้านดังในขอนแก่น มากกว่า 40 ร้าน, เทศกาลดนตรี เฉียงเหนือเฟส 2 จ.ขอนแก่น, Khon Kaen International Jazz Festival 2024 “SOUND อีสานรอรัก” จ.ขอนแก่น จากปัจจัยดังกล่าวส่งผลให้การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศของภูมิภาคนี้มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง