Video: The Rise of Solo Travel
จะต้องรอคู่รอใครไปเที่ยวด้วยกันทำไม? รอหลายคนมันวุ่นวาย ไปคนเดียวก็เที่ยวได้!
เคยไหมที่อยากไปทริปทีไร แต่กว่าจะได้ไปก็แสนยากเย็น ไปทีก็ต้องรอทุกคนพร้อม ไม่พร้อมก็ต้องเลื่อนการเดินทาง เลื่อนแล้วเลื่อนอีก ถ้าอย่างนั้นการได้ลองออกไปท่องโลกคนเดียว ก็น่าจะดีเหมือนกันนะ!
หลังจากการระบาดของโควิด-19 สามารถควบคุมได้ การท่องเที่ยวเริ่มกลับมาคึกคัก ผู้คนกลับไปเดินทางท่องเที่ยว เพื่อชดเชยช่วงเวลาที่เสียไป และด้วยการที่ต้องกักตัวอยู่บ้าน ได้อยู่กับตัวเองเป็นเวลานาน
ผู้คนกลุ่มหนึ่งเกิดการแสวงหาความสงบสุข และพื้นที่ส่วนตัว การได้ออกไปท่องโลกสร้างประสบการณ์ และการได้ใช้เวลากับตัวเองคนเดียวจึงเป็นคำตอบที่ใช่ จนเกิดเป็นกระแสที่มาแรงไม่แพ้กันคือ
‘การเที่ยวคนเดียว’ (Solo Travel)
กระแสของ Solo Travel นั้นเริ่มขึ้นตั้งแต่ช่วงปี 2016 และพัฒนาต่อเนื่องมาจนก่อนการเกิดโควิด-19 มาแรงจนเกิดเป็นเทรนด์รูปแบบการท่องเที่ยวอันดับหนึ่งบนแพลตฟอร์ม Klook
โดยผู้ค้นหาส่วนใหญ่นั่นก็คือนักท่องเที่ยวจาก ประเทศเยอรมนี อังกฤษ และแคนาดา ข้อมูลที่น่าสนใจคือกลุ่มคนเที่ยวคนเดียวของชาวเอเชียกับชาวตะวันตกจะมีช่วงอายุที่แตกต่างกัน ทางฝั่งเอเชียเป็นกลุ่มคนรุ่นใหม่โดยเป็น Millennials 41% Gen Z 38% ที่มีเวลาพักแรมสั้นประมาณ 1-3 คืน ส่วนฝั่งตะวันตกจะเป็นกลุ่มคนที่มีอายุมากกว่า โดยเป็น Baby Boomers 39% และ Gen X 24% ใช้เวลาท่องเที่ยวพักแรมที่ยาวนานกว่า ประมาณ 4-7 คืน อีกทั้งข้อมูลของ Agoda พบว่ากรุงเทพมหานครถูกจัดเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมในเอเชียสำหรับผู้เดินทางเดี่ยว
การได้ออกเดินทางด้วยตัวคนเดียวคือการเดินทางเพื่อการเปลี่ยนแปลงได้เปิดหูเปิดตากับประสบการณ์ชีวิตใหม่ ๆ
แล้วคุณล่ะกล้าที่จะออกจากเซฟโซนไปหาประสบการณ์ใหม่ ๆ ออกไป ‘เที่ยวคนเดียว’ กันแล้วหรือยัง?