การแพร่ระบาดที่ยาวนาน ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของคนทั่วโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งการนอนหลับของผู้คน Journal of Clinical Sleep Medicine วารสารวิชาอายุรศาสตร์การนอนหลับ พบว่า 40% ของผู้บริโภค มีคุณภาพการนอนหลับที่ลดลงนับตั้งแต่เริ่มต้นการระบาดใหญ่

ผู้คนจำนวนมากเริ่มตระหนัก และให้ความสำคัญกับ ‘การนอนหลับ’ มากยิ่งขึ้น เพราะการอดนอนทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นความวิตกกังวล ภาวะซึมเศร้า อารมณ์แปรปรวน เบื่อหน่าย และความเหนื่อยล้า และผลจากการประสบปัญหากับการนอนหลับมากยิ่งขึ้นนี้เอง ทำให้เกิดเป็นเทรนด์การท่องเที่ยวแบบใหม่ที่เรียกว่า ‘การท่องเที่ยวเพื่อการนอนหลับ’ หรือ ‘Sleep Tourism’

กระแสของ Sleep Tourism เริ่มขึ้นในช่วงปี 2563 ยืนยันจากตัวเลขการเข้าพักโรงแรมและรีสอร์ตทั่วโลกที่ให้ความสำคัญด้านประสบการณ์การนอนหลับที่เปิดให้บริการแพ็กเกจการท่องเที่ยวเพื่อการนอนหลับ จับกลุ่มเป้าหมายผู้ที่มีภาวะขาดการนอนหลับที่เต็มอิ่ม หรือ sleep-deprivation เน้นให้บริการสิ่งอำนวยความสะดวก ให้เกิดการนอนหลับและพักผ่อนอย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมบริการสปาเต็มรูปแบบ โดยมีให้เลือกตั้งแต่ 3-7 วัน

ยกตัวอย่างโรงแรมหลายแห่งในต่างประเทศที่มีการเปิดบริการแพ็คเกจเพื่อรองรับนักท่องเที่ยวสายนอนโดยเฉพาะ เช่น โรงแรมระดับ 5 ดาวใจกลางกรุงมหานครนิวยอร์ก อย่าง Park Hyatt New York, โรงแรมหรูในเครือ Rosewood Hotels & Resorts, โรงแรม Zedwell โรงแรมเพื่อการนอนหลับแห่งแรกของกรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร และ Hästens Sleep Spa Hotel ที่โปตุเกส โดยบริษัทผลิตเตียงและอุปกรณ์เพื่อการนอนหลับสัญชาติสวีเดน

นอกจากนี้ โรงแรมบางแห่งได้มีการร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อออกแบบโปรแกรมอย่างจริงจัง ยกตัวอย่างเช่น โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล ในเมืองเจนีวา และโรงแรมในเครือ Belmond Hotel ในกรุงลอนดอน ได้ร่วมมือกับผู้เชี่ยวชาญแขนงต่าง ๆ ด้านการนอนหลับเพื่อจัดโปรแกรมสามวันที่ศึกษารูปแบบการนอนของผู้เข้าพักเพื่อระบุความผิดปกติของการนอนหลับและแนวโน้มที่อาจเกิดขึ้นได้ในอนาคต รวมถึงสร้างบริการพิเศษเรียกว่า Sleep Concierge สำหรับแก้ไขปัญหาเรื่องการนอนหลับ สำหรับลูกค้าที่มีปัญหาด้านการนอนโดยเฉพาะ เพื่อให้ได้สัมผัสประสบการณ์การนอนหลับที่ดีเยี่ยมที่สุดอีกด้วย

เมื่อผู้คนมีทัศนคติต่อการนอนหลับที่เปลี่ยนไปและการนอนหลับไม่ใช่เรื่องเล็กอีกต่อไป การท่องเที่ยวเพื่อการนอนหลับ กำลังเปลี่ยนความคิดเดิมของผู้คนที่มักคิดว่าจะต้องอดหลับอดนอนเพื่อท่องเที่ยวให้ได้มากที่สุด จึงเป็นที่น่าจับตามองเป็นอย่างยิ่งว่าในอนาคตว่าอาจมีอีกหลายวิธีที่จะผสานการท่องเที่ยวและศาสตร์แห่งการพักผ่อนเข้าด้วยกันได้

มันจะดีแค่ไหนกัน หากการท่องเที่ยว = การพักผ่อน

ลองมาสัมผัส การไปเที่ยวเพื่อการนอนหลับที่จะทำให้การท่องเที่ยว และการนอนหลับของคุณเปลี่ยนไปตลอดกาล!