เรื่องสุ่มเสี่ยงที่ไม่ควรเสี่ยงสุ่ม

รศ. ดร.กฤตินี ณัฏฐวุฒิสิทธิ์

 

 

 

ประเด็นร้อนคู่กระแสน้องน้ำช่วงนี้คงไม่พ้นเรื่องการเปิด “Entertainment Complex” ของบ้านเรา คงไม่ต้องถกกันให้จำเจเรื่องประโยชน์ทางเศรษฐกิจมากมายกับปัญหาสังคมที่อาจเกิดขึ้นตามมาก่ายกอง แต่อยากใช้พื้นที่นี้ชวนกันเรียนรู้จากความพยายามของคนอื่น ๆ ก่อนจะมีความเห็นและตัดสินใจว่า ควรจะเอาหรือไม่ ใช่หรือเปล่า โดยมาลองคิดกันให้รอบด้าน ตั้งคำถามและหาคำตอบกันดู

 

เรากำลังพูดกันถึง Casino หรือ Entertainment Complex? 

มากไปกว่านั้นเมื่อแปลเป็นไทยแล้วจะยิ่งได้ความหมายเสริมจากความเป็นบ่อนการพนันหรือสถานบันเทิงครบวงจร? เป็นที่เข้าใจโดยหลักการว่า Entertainment Complex ที่ตั้งใจทำมีองค์ประกอบของ Casino อยู่ในนั้น ทว่าการวางแผนและลงมือทำต้องมีความชัดเจนไม่ซุกซ่อน โดยโมเดลที่พบในหลายแห่งของโลกระบุว่าแม้โดยสัดส่วนพื้นที่อาจมี Casino อยู่ 10-20% และที่เหลือเป็นสถานบันเทิงอื่น ๆ ได้แก่ โรงแรม ร้านอาหาร ร้านค้า/ศูนย์การค้า สวนสนุก พื้นที่จัดกิจกรรม นิทรรศการ งานแสดงสินค้า การแสดง และอื่น ๆ อีกมากมาย แต่ในแง่โมเดลธุรกิจแล้วกลับกันคือ Casino เป็นส่วนสร้างรายได้ 80-90% ซึ่งถึงแม้จะเป็นเช่นนั้นก็ยังต้องให้ความสำคัญกับการลงทุนและการบริหารจัดการเพื่อให้เกิดความครบวงจร

 

รูปภาพจาก inspirekorea.com

 

ความเห็นจาก Mr. Michael Jensen ดำรงตำแหน่ง CMO ของ INSPIRE Entertainment Resort ที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ระบุว่า Entertainment Complex ที่จะประสบความสำเร็จต้องมี Scale หรือขนาดที่รวบรวมเอาความบันเทิงอื่น ๆ เข้ามาไว้ใต้ร่มเดียวกันแบบ All under one roof และต้องมีความโดดเด่นแตกต่าง ไม่ว่าจะเป็นเชิงสถาปัตยกรรม การผสมผสานเอกลักษณ์วัฒนธรรม หรือธีมความคิดสร้างสรรค์ต่าง ๆ เช่นนี้จึงจะสามารถดึงดูดความสนใจของกลุ่มเป้าหมายที่มีความหลากหลายและชื่นชอบความบันเทิงในลักษณะที่แตกต่างกันได้ พร้อมกับสามารถแข่งขันกับ Entertainment Complex อีกมากมายทั่วโลก ซึ่งนั่นหมายความว่าเราต้องการพื้นที่ขนาดใหญ่ เม็ดเงินลงทุนมหาศาล การก่อสร้างอลังการ การจัดการและผู้คนทำงานมากมาย ไม่แปลกที่เมื่อคำนวณมูลค่าทางการเงินจะออกมาใหญ่ยักษ์ เข้าตำรา High Risk, High Return ตามมุมมองและการตัดสินใจของนักลงทุน แต่ไม่ใช่แค่นั้น ประเทศชาติประชาชนต้องมีส่วนร่วมพิจารณาถึงโอกาสและความเสี่ยงที่ไม่ได้มีแค่เชิงเศรษฐกิจ แต่ยังมีด้านสังคม ชุมชน สิ่งแวดล้อม ให้นำมาพิจารณาด้วย

 

รูปภาพจาก x.com/LVNewsBureau

 

เราต้องการ Entertainment Complex ขนาดใหญ่มาเพื่ออะไร? 

หลายประเทศกำหนดโลเคชันสร้างในบริเวณที่ต้องการให้เกิดการปรับปรุงพื้นที่ เช่น การปลุกชีวิตให้เมืองที่เสื่อมโทรมกำลังร้างไร้ผู้คน การกระจายรายได้ไปสู่พื้นที่ไกลจากเขตเศรษฐกิจ ทำให้การพัฒนาไม่กระจุกตัว ตัวอย่างจาก Las Vegas ที่เคยเป็นเมืองกลางทะเลทรายในรัฐ Nevada สหรัฐอเมริกา หรือ Macao ที่เคยเป็นหมู่บ้านชาวประมง ก่อนจะมาอยู่ใต้การปกครองของโปรตุเกสและปัจจุบันเป็นส่วนหนึ่งของประเทศจีน ทั้งสองแห่งได้รับการพัฒนากระทั่งกลายเป็นศูนย์รวม Entertainment Complex ที่มีชื่อเสียงระดับโลก สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากหลากหลายประเทศให้มาเยี่ยมชม เป็นจุดหมายปลายทาง หรือ Destination ในตัวเอง ดังจะเห็นจากหลายคนจัดทริปไปอยู่ใน Las Vegas ได้หลาย ๆ วันโดยไม่จำเป็นต้องหาที่เที่ยวอื่น หรือคนที่เดินทางไป Macao แต่ไม่เคยไปเมืองอื่นในจีน ปัจจุบันที่ Macao ยังมีข้อกำหนดให้ผู้ประกอบการต้องยื่นมือออกไปพัฒนาพื้นที่ส่วนอื่นที่อยู่ห่างออกไปเพื่อช่วยกระจายโอกาสต่อไป

 

ประเทศไทยเป็นเมืองสวรรค์แห่งการท่องเที่ยว เรามีธรรมชาติที่หลากหลาย ผู้คน อาหาร ศิลปวัฒนธรรม ทำให้ประเทศไทยติดอันดับเมืองท่องเที่ยวโลก ด้านความบันเทิงเราขึ้นชื่อเรื่องการมีร้านอาหาร สินค้าคุณภาพให้เลือกสรรหลายระดับพร้อมสนนราคาจับต้องได้ และมีศูนย์การค้าขนาดใหญ่ที่ได้รับรางวัลการออกแบบระดับโลก แบรนด์ดังต่างเลือกมาปรากฏในพื้นที่ตลาดบ้านเรา แต่ส่วนใหญ่ยังรวมศูนย์อยู่ในแถบกรุงเทพและหัวเมืองใหญ่ เช่น เชียงใหม่ ภูเก็ต เป็นต้น ทำให้ประเทศไทยยังมีปัญหาความเหลื่อมล้ำและการกระจุกตัวทางเศรษฐกิจ และความจำเป็นที่ต้องสร้างการพัฒนาในเมืองรองที่หลายแห่งเข้าถึงได้ไม่ลำบาก ด้วยถนนหนทางและระบบการขนส่งที่เจริญก้าวหน้าไปมากแล้ว เพียงแต่ต้องได้รับการต่อยอดเพื่อให้รองรับกิจกรรมธุรกิจขนาดใหญ่ ซึ่งหลายแห่งทำได้สำเร็จเป็นตัวอย่างแล้ว เช่น เขตอุตสาหกรรมในฝั่งตะวันออก หากเป็นอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและบันเทิงต้องอาศัยการรวมตัวเป็น Scale ขนาดใหญ่ เพื่อมีกำลังพอผลักดันทั้งด้านการลงทุนของซัพพลาย และการสร้างดีมานด์ตลาดและลูกค้ามาใช้บริการให้เกิดการเคลื่อนตัวทางเศรษฐกิจได้ Entertainment Complex เป็นหนึ่งในกิจการที่เข้าข่ายแต่พื้นที่ที่กำหนดไว้ตอบโจทย์การพัฒนาประเทศและสังคมไทยหรือยัง 

 

 

รูปภาพจาก www.rwsentosa.com

 

 

เราจะทำให้เกิดประโยชน์วงกว้างจาก Entertainment Complex ได้อย่างไร? 

มากไปกว่าการสร้างและจ้างงานซึ่งเป็นสิ่งต้องทำอยู่แล้วเพื่อความอยู่รอดของธุรกิจ เราจะทำให้เกิดการกระจายรายได้และการพัฒนาไปสู่ชุมชนและกิจการของคนในชาติได้อย่างไร โดยเฉพาะโอกาสที่นักลงทุนจะเป็นต่างชาติรายใหญ่ ที่ Entertainment Complex ในหลายประเทศมีข้อกำหนดให้ต้องมีการดำเนินธุรกิจเกื้อกูลหรือร่วมกันกับธุรกิจในพื้นที่หรือประเทศนั้น ๆ ผ่านกลไกขั้นต้น เช่น การสนับสนุนโครงการพัฒนาชุมชนหรือ Community Engagement ด้านต่าง ๆ หรือข้อกำหนดในการได้ License ต้องมีสัดส่วนการซื้อสินค้าวัตถุดิบจาก Local Suppliers หรือจัดสรรพื้นที่การค้าให้ธุรกิจที่มีคนในประเทศเป็นเจ้าของดำเนินการ เช่นที่ City of Dreams, Manila ประเทศฟิลิปปินส์ มีการจัดกิจกรรมสนับสนุนให้ธุรกิจในชุมชนได้มาออกร้านขายสินค้า เปิดพื้นที่ให้ศิลปินได้มาจัดการแสดงหารายได้ หรือที่ Resorts World Sentosa ประเทศสิงคโปร์ กระตุ้นให้ร้านอาหารท้องถิ่นได้มาเปิดร้านเป็นการส่งเสริมเชิงวัฒนธรรมอีกด้วย ด้านเกาหลีใต้ INSPIRE Entertainment Resort ขานรับข้อกำหนดโปรโมท Korean Creative Economy โดยเป็นผู้ร่วมจัด K-pop events, K Art exhibitions และการประกวดชุดประจำชาติ Hanbok เป็นต้น 

 

กลไกที่ยกระดับมากไปกว่ากิจกรรมสนับสนุน ได้แก่ การร่วมทุน เช่นที่ Resorts World Manila เดิมเป็นการร่วมทุนระหว่าง Genting Group ประเทศมาเลเซีย กับ Alliance Global Group ประเทศฟิลิปปินส์ ก่อนจะเปลี่ยนมือเป็นของ Travellers International Hotel Groups (Subsidiary ของ Alliance Global Group) และรีแบรนด์เป็น Newport World Resort การออกแบบกลไกดังกล่าวมีความสำคัญต่อการสร้างการกระจายรายได้อย่างเป็นระบบ และที่สำคัญควรต่อยอดไปถึงการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อสร้างความยั่งยืน โดยผ่านข้อกำหนดการจ้างงานเพื่อให้ผู้ประกอบการรายใหญ่ระดับโลกได้ถ่ายโอนความรู้ทักษะการบริหารจัดการให้กับคนในประเทศเจ้าของพื้นที่ 

 

 

เราสามารถป้องกันความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้นกับผู้คน ชุมชน และสังคมได้หรือไม่? 

ว่าด้วยเรื่องที่เกี่ยวกับบ่อนการพนัน Casino กับความหวั่นไหวโดยเฉพาะในกลุ่มเปราะบาง ที่อาจนำไปสู่สารพันปัญหาวงกว้างทั้งด้านสุขภาพจิต ผลกระทบต่อเนื่องถึงครอบครัว และอาชญากรรม Entertainment Complex ในหลายประเทศจึงมีการออกแบบมาตรการที่เข้มข้น เพื่อจำกัดจำนวนและกลุ่มคนในประเทศที่จะเข้ามาใช้บริการ Casino เช่นที่สิงคโปร์ มีการเรียกเก็บค่าเข้าสำหรับประชาชนและผู้อยู่อาศัยถาวรที่ 150 ดอลล่าร์สิงคโปร์ต่อวัน หรือ 3,000 ดอลล่าร์สิงคโปร์ต่อปี ข้อกำหนดนี้เป็นส่วนหนึ่งของ Casino Control Act ที่เป็นกฎหมายบังคับใช้ นอกจากนั้นยังมีข้อกำหนดที่ว่าด้วย Family Visit Limit จำกัดจำนวนการเข้า Casino หากบุคคลนั้น ๆ มีพฤติกรรมเล่นการพนันที่ส่งผลเชิงลบกับสุขภาวะทางการเงินและอารมณ์ ละเลยความรับผิดชอบต่อครอบครัว หากละเมิดต้องชำระค่าปรับไม่เกิน 10,000 ดอลล่าร์สิงคโปร์ และจำคุกไม่เกิน 12 เดือน นอกจากมาตรการลงโทษยังมีส่วนการสนับสนุนดูแลผู้ได้รับผลกระทบ ตั้งแต่บริการให้คำปรึกษา (Counseling) และการฟื้นฟูเยียวยา (Rehabilitation)

 

รูปภาพจาก Lets Design Studio / Shutterstock.com

 

สำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยวและบุคคลทั่วไป ผู้ประกอบการหลายแห่งตระหนักถึงความสำคัญของ Responsible Gambling Practices ครอบคลุมตั้งแต่การให้ข้อมูลถึงผลเสียและความเสี่ยงของการพนัน ไปจนถึงการติดตามเฝ้าระวังบุคคลที่มีพฤติกรรมความเสี่ยง โดยปัจจุบันมีการนำเทคโนโลยีและการจัดการข้อมูลเข้ามาช่วย เช่น Player Tracking Systems ที่ทำให้รู้ตั้งแต่ข้อมูลพื้นฐาน เช่น เพศ วัย ไปจนถึงความสนใจ วิธีการเล่น โดย AI เข้ามาช่วยวิเคราะห์เพิ่มเติมต่อไปถึงการคาดการณ์หรือ Prediction การเข้าถึงข้อมูลดังกล่าวมาจากการนำระบบ Membership มาช่วยจูงใจให้อยากแสดงตน เช่น การให้แต้มสะสมเพื่อแลกรางวัล Craig Yu, CEO of ColourData ระบุถึงความสำคัญของการทำ Digital CRM จากประสบการณ์ทำ Membership Application ให้กับ Casino รายใหญ่ใน Macao โดยผนวกกับการให้ข้อมูลแนะนำธุรกิจและการท่องเที่ยวในชุมชน นอกจากนั้นด้วย Cashless System ในปัจจุบันยังทำให้รู้ครอบคลุมต่อไปถึงไลฟ์สไตล์หรือความชื่นชอบความบันเทิงในด้านอื่น ๆ ประกอบกัน เหล่านี้มีประโยชน์ทางตรงด้านการตลาด ทำให้สามารถสร้างแคมเปญตรงความสนใจ สามารถเข้าดูแลแบบ real-time ได้กับลูกค้าบางกลุ่ม และยังเป็นช่องทางการบริหารความสัมพันธ์ระยะยาวกับลูกค้า นอกจากนั้นยังสามารถวิเคราะห์รูปแบบการเล่นและแนวโน้มความเสี่ยงต่อความเสียหายขนาดใหญ่ ช่วยให้ผู้ประกอบการสามารถตัดสินใจดำเนินการเข้าประคับประคองป้องกันกรณีกลุ่มเสี่ยง ทั้งนี้มีการออกแบบพื้นที่และกิจกรรมเพื่อรองรับลักษณะและระดับการเล่นที่แตกต่าง เช่น การกำหนดลิมิตจำนวนเงินของโต๊ะในโซนต่าง ๆ  หรือเกมการเล่นที่หลากหลาย ให้เหมาะกับการจัดการอารมณ์ในแต่ละช่วง 

 

 

เรากำลังสร้างความสับสนระหว่าง Casino กับ Entertainment Complex หรือเปล่า? 

สุดท้ายกลับมาที่คำถามแรกระหว่าง Casino กับ Entertainment Complex เราจะมีวิธีป้องกันความสับสนจากความเพลิดเพลินในกิจกรรมบันเทิงทั่วไปกับความสุขจากการเล่นพนันได้อย่างไร ข้อมูลจากผู้ประกอบการระบุว่าลูกค้า Casino ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มที่เล่นเพื่อความสนุกสนาน ได้รับความตื่นเต้นและท้าทายจากความเสี่ยงและโอกาสชนะ ซึ่งเป็นความบันเทิงที่แตกต่างไปจากกิจกรรมอื่น ๆ หากลูกค้ามีความตระหนักรู้และรับผิดชอบกับพฤติกรรมของตัวเองก็สามารถหยุดตัวเองไม่ให้เล่นจนเกินขอบเขตที่เหมาะสมไปได้ เช่น บางคนตั้งเป้าเล่นได้หรือเสียถึงจุดหนึ่งแล้วพอ แต่ที่เป็นปัญหาคือ กลุ่มที่สับสนความสุขจนกลายเป็นความโลภอยากได้มากขึ้นเมื่อเล่นได้ อยากเอาคืนเมื่อเล่นเสียไป ภาวะดังกล่าวอาจนำไปสู่การตัดสินใจแบบใช้อารมณ์เป็นใหญ่ เมื่อผิดหวังก็มีโอกาสจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ดังที่พบในหลายกรณี กลุ่มเปราะบางที่ยิ่งต้องเพิ่มความระมัดระวังอีกกลุ่ม ได้แก่ เด็กและเยาวชน ที่เป็นกลุ่มเป้าหมายมาท่องเที่ยว Entertainment Complex กับครอบครัว ต้องมีวิธีป้องกันความสับสนจากการเห็นและเข้าใจแสงเสียงเร้าใจ รอยยิ้มเสียงหัวเราะจากคนเล่นได้ใน Casino เช่นหลายแห่งให้ความสำคัญกับการออกแบบพื้นที่และ Zoning ที่แยกจากกันชัดเจน 

 

เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ ทั้งในเชิงโอกาสและความท้าทายที่เกี่ยวข้องกับความสุ่มเสี่ยงหลายมิติ จึงควรตั้งคำถามและไม่ควรเสี่ยงสุ่มหาคำตอบเอาง่าย ๆ  เมื่อได้เห็นมุมต่าง ๆ พร้อมบทเรียนจากหลายประเทศทั้งที่ประสบความสำเร็จและล้มเหลว แล้วก็นำมากำหนดเงื่อนไขพร้อมแนวปฏิบัติที่ชัดเจนประกอบการตัดสินใจ เรื่องความมั่นคงและความก้าวหน้าของสังคมไม่ใช่การพนันที่วัดกันแค่ได้หรือเสีย 

Share This Story !

3.8 min read,Views: 743,

Related projects

  • ¡Hola! Spanish Travelers

    มกราคม 26, 2025

  • ‘เรื่องเล่น’ เรื่องเล็กน้อยมหาศาล

    มกราคม 26, 2025

  • ‘DESERT SUPERCITY’ มหานคร แห่งทะเลทราย

    มกราคม 26, 2025