พัชรวรรณ วรพล

 

 

รูปภาพจาก Facebook Fanpage ขาหมู แอนด์เดอะแก๊ง

 

ช่วงเวลานี้ คงไม่มีใครไม่รู้จักลูกฮิปโปแคระตัวน้อย ที่เริ่มต้นความดังจากคลิปแรกบน TikTok โชว์ความน่ารักและต่อมากลายเป็นไวรัลบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียและสื่อต่าง ๆ ไปทั่วโลก หลังจากนั้นชื่อ “หมูเด้ง” ก็ปรากฎให้เห็นในทุก ๆ ที่ ไม่ว่าจะเป็นสินค้า ศิลปะ กีฬา ภาพยนตร์ ขนาดเทรนด์การแต่งหน้าหรือเครื่องสำอางยังทำออกมาแบบให้มีสีสันเหมือนสีแก้มของหมูเด้ง เรียกได้ว่าแบรนด์ต่าง ๆ คนดัง ๆ หรือรายการระดับโลก อย่าง SNL (Saturday Night Live) ต่างกล่าวถึงหมูเด้ง สวนสัตว์เขาเขียวที่อยู่ของหมูเด้งจึงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติพากันมาเยี่ยมชมจนแน่น การจราจรติดขัด โดยในวันเสาร์ จากประมาณ 2,000-3,000 คน พุ่งเป็น 15,000 คน ในช่วงเวลาเดียวกันกับของปีที่แล้ว หมูเด้งจึงกลายเป็น Soft Power ที่ไทยต้องไม่พลาดเวลาทองนี้ในการโฆษณาประเทศ ในแง่อาหารดูเหมือนจะเป็นช่องทางที่ประสบความสำเร็จ เพราะรายการญี่ปุ่น Nippon TV ได้นำเสนอความแตกต่างของคำศัพท์ภาษาไทย เช่น “หมูเด้ง” (ลูกชิ้นหมูเด้ง – Bounce แปลว่าเด้งในภาษาไทย) “หมูแดง” “หมูย่าง” และ “หมูสับ” กลายเป็นโอกาสส่งเสริมชื่อเสียงด้านอาหารของประเทศไทยในทันที

เมื่อไทยมีหมูเด้ง ชาติอื่นก็ไม่พลาดที่จะผลักดันฮิปโปให้คนรู้กันว่าของฉันก็มีนะ

 

รูปภาพจากx.com/NIFREL_official/

“เนมุเนมุ” แห่งพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ Nifrel Aquazoo เมืองโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น คลิปวิดีโอลูกฮิปโปจิ๋วเพศเมีย ฉลองอายุครบ 1 ขวบ ผ่านช่องทาง X หรือทวิตเตอร์ มาแข่งความน่ารักกับหมูเด้ง โดยพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำนี้ตั้งอยู่ภายในอาคาร Expo City ซึ่งรวมเอาพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ สวนสัตว์และพิพิธภัณฑ์ศิลปะเข้าด้วยกัน จึงไม่ใช่การจัดแสดงแบบธรรมดาแต่ใช้เทคโนโลยี Interactive อันทันสมัยในการนำเสนออีกด้วย

ไม่ใช่แค่ฮิปโป สัตว์อื่น ๆ ต่างก็เดินขบวนออกมาโชว์ความน่ารัก

 

รูปภาพจาก x.com/hibiki_kangaroo

 

จิงโจ้ แห่งสวนสัตว์ฮิบิกิ เมืองคิตะคิวชู จังหวัดฟุกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ที่โพสท่าถ่ายภาพหมู่ โดยจิงโจ้แต่ละตัวไม่ได้อยู่ในท่าทางเดียวกันเลย ซึ่งยากมากที่จะเห็นพวกมันรวมตัวอยู่กันนิ่ง ๆ แบบนี้ กลายเป็นภาพไวรัลฝูงจิงโจ้ที่มีผู้เข้าชมกว่า 13 ล้านครั้ง และดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวญี่ปุ่นมาเที่ยวชมเป็นจำนวนมาก

 

รูปภาพจาก visitsealife.com/melbourne

เพสโต้ ลูกเพนกวินที่เกิด ณ พิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ SEA LIFE เมลเบิร์นในออสเตรเลีย จากขนาดตัวที่ใหญ่มีน้ำหนักเกือบ 50 ปอนด์ ซึ่งมากกว่าน้ำหนักของพ่อแม่ของมันรวมกันเสียอีก เพสโต้จึงกลายเป็นลูกเพนกวินตัวใหญ่ที่สุดเท่าที่มีมา และหลังจากคลิปที่มันยืนและมีความสูงกว่าพ่อแม่ของมัน หรือภาพ “ลูกนกเพนกวินอ้วน” เดินโซเซไปมาบนฟีดโซเชียลมีเดียจนกลายเป็นไวรัลบนอินเตอร์เน็ต ทำให้คนมากมายตื่นเต้นรวมถึงคนดัง ๆ อย่าง เคธี เพอร์รี ที่ต้องมาดูเจ้าเพสโต้ให้เห็นกับตาตนเอง

 

รูปภาพจาก indianapoliszoo

ร็อกกี้ อุรังอุตังเพศผู้แห่งสวนสัตว์อินเดียนาโพลิส กลายเป็นกระแสไวรัลเพราะความสามารถในการเลียนเสียงพูดของมนุษย์ การสร้างเสียงร้องที่เป็นเอกลักษณ์ที่เรียกว่า “วูกกี้” พรสวรรค์ที่หายากนี้ทำให้มันกลายเป็นจุดสนใจของทั้งนักวิจัยและคนดูจำนวนมากที่ต่างตั้งหน้าตั้งตารอชมมัน “พูด” แม้จะเป็นการเลียนเสียงมากกว่าการสร้างคำจริง แต่ก็แสดงให้เห็นถึงความฉลาดของเจ้าลิงยักษ์นี้

 

รูปภาพจาก x.com/BiscuitsTheSeal

บิสกิต เดอะ ซีล แมวน้ำหน้าเศร้าตัวเล็ก ๆ ชื่อบิสกิต มีน้ำหนักเพียง 15 ปอนด์ ถูกพบว่าไม่ได้อยู่กับแม่ของมันและถูกส่งตัวไปที่ศูนย์ช่วยเหลือสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทางทะเล Vancouver Aquarium ของแคนาดา ตอนนี้มันกินปลาได้เองแล้วและแข่งขันกับแมวน้ำตัวอื่นเพื่อหาอาหารได้ แต่มันกลับไม่ดังเท่ากับหมูเด้งหรือเพสโต้

 

รูปภาพจาก instagram.com/kidssavingtherainforest

โมเล่ ลูกสลอธกำพร้าตัวน้อยแสนน่ารัก ที่คนเห็นผ่านคลิปของอาสาสมัครขณะที่เขาพาโมเล่เข้าไปในป่าเพื่อรับวิตามินดีและฝึกให้มันคลานบนต้นไม้ที่ศูนย์ฟื้นฟูป่าฝน Kids Saving the Rainforest ในเมือง Manuel Antonio ประเทศคอสตาริกา ด้วยดวงตาที่ง่วงนอนและรอยยิ้มของโมเล่ ทำให้หลายคนติดตามดูผ่านอินเตอร์เน็ตและอยากไปหามันจริง ๆ ถ้ามีโอกาส

 

รูปภาพจาก instagram.com/peanut_the_squirrel12

 

พีนัท กระรอกกำพร้าที่ถูกเก็บมาเลี้ยงและโด่งดังบน TikTok และ Instagram แล้ววันหนึ่งกลับถูกเจ้าหน้าที่จากกรมอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมของนิวยอร์กการุณยฆาต โดยอ้างว่ามีการร้องเรียนถึงการเลี้ยงดูสัตว์อันตรายเอาไว้ และการตายของมันก็ยิ่งดังเข้าไปใหญ่ เมื่อถูกนำไปโยงกับการหาเสียงชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่พาดพิงถึงการทำงานและข้อกฎหมายที่ล้มเหลวและผู้คนออกมาเรียกร้องความรับผิดชอบต่อการตายของมันจากรัฐบาล ใครจะไปคิดว่าสัตว์ตัวเล็ก ๆ จะสร้างความสั่นสะเทือนต่อการเมืองของประเทศมหาอำนาจได้ขนาดนี้

 

จะเห็นได้ว่าความน่ารักของเหล่าสรรพสัตว์พวกนี้เป็น Soft Power ให้กับประเทศตนเองไปในที่สุด นักท่องเที่ยวต่างหาโอกาสเดินทางข้ามเมือง ข้ามประเทศเพื่อไปดูไปชมด้วยตนเอง ความน่ารัก ความแปลก ความมีเอกลักษณ์ของสัตว์เหล่านี้ยังถูกนำมาเป็นทูตสัตว์สันถวไมตรีอีกด้วย อย่างประเทศจีน ที่ใช้ทูตแพนด้าเชื่อมความสัมพันธ์กับหลาย ๆ ชาติ ซึ่งสามารถลดความตึงเครียดกับหลาย ๆ ประเทศได้อย่างเห็นผล หรือออสเตรเลียที่ใช้ทูตหมีโคอาลา มังกรโคโมโดของอินโดนีเซีย และช้างไทย วิธีใช้สัตว์แปลกหายากเป็นเครื่องมือนำไปเป็นของขวัญหรือเป็นเครื่องบรรณาการเพื่อการเอาชนะใจทั้งศัตรูและพันธมิตรนั้นมีมาเนิ่นนานแล้ว เห็นได้จากหลักฐานทางประวัติศาสตร์ที่กล่าวถึงคลีโอพัตราได้มอบยีราฟให้แก่จูเลียส ซีซาร์ ในขณะที่ฮารูน อัล ราชิด กาหลิบแห่งกรุงแบกแดดได้มอบช้างเอเชียให้แก่ชาร์เลอมาญ กลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบต่อกันมา แต่ในปัจจุบันหลายฝ่ายไม่เห็นด้วยเพราะสัตว์ที่ถูกเคลื่อนย้ายจะมีผลกระทบต่อการอยู่อาศัยในสภาพแวดล้อมที่แตกต่าง อีกทั้งฝ่ายที่เป็นผู้รับก็ต้องสร้างที่อยู่อาศัยจำลอง ศึกษาการเลี้ยงดู การรักษา การให้อาหารเพื่อให้สัตว์ใช้ชีวิตอยู่อย่างเหมาะสมและใกล้เคียงกับถิ่นที่อยู่เดิมให้ได้มากที่สุดด้วยจำนวนเงินมหาศาล

อย่างไรก็ตาม ปฏิเสธไม่ได้ว่าการมีแฟนคลับมากมายติดตามสัตว์เหล่านี้เพิ่มมากเรื่อย ๆ นั้นก็เนื่องมาจากสื่อโซเชียลมีเดีย ทั้ง TikTok IG DXT360 การติดแฮชแท็ก เช่น #MooDengwillbouncewhen เหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าอินเตอร์เน็ตสามารถผลักดันสิ่งธรรมดาให้กลายเป็นที่นิยมข้ามพรมแดนข้ามวัฒนธรรมต่าง ๆ ได้อย่างรวดเร็ว แต่ก็ต้องพร้อมที่จะรับข้อวิพากษ์วิจารณ์จากฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย เพราะอยากให้สัตว์มีชีวิตในแหล่งที่อยู่อาศัยตามธรรมชาติ ไม่อยากเห็นการนำสัตว์มาอยู่ในสถานที่ท่องเที่ยวหรือเพื่อความบันเทิง

เมื่อมีสัตว์ที่น่ารัก ๆ หรือสัตว์ป่าอื่น ๆ ในครอบครองจนได้รับความนิยม มีผู้คนติดตามอยากดูด้วยความชื่นชมแล้ว ก็ควรดูแลรักษาให้ความรักความสำคัญ เลี้ยงดูกันไปตลอดอายุขัยหรือจนกว่าจะปล่อยกลับคืนสู่ธรรมชาติ ไม่ใช่มองแค่เพียงประโยชน์ที่ได้รับจากเรื่องชื่อเสียง รายได้ และการต่อยอดไปในธุรกิจอื่น ๆ แต่สิ่งที่ลืมไม่ได้ก็คือ การอยู่ร่วมกันอย่างเกื้อกูล สัตว์สร้างรอยยิ้มและความสุขให้ผู้คน ส่วนคนก็คอยปกป้องใส่ใจการเติบโตของเหล่าสรรพสัตว์ที่เราต้องอยู่ร่วมกันบนโลกใบนี้อย่างสงบสุข.

 

อ้างอิง

https://taeartman.com/moo-deng-diplomacy/?lang=en

https://www.euronews.com/green/2024/05/24/disconnected-from-reality-why-wildlife-protection-groups-want-animal-diplomacy-to-stop

https://www.thestar.com.my/aseanplus/aseanplus-news/2024/09/14/moo-dengs-rise-to-global-stardom-is-testament-to-the-power-of-social-media

https://statenews.com/article/2024/10/moo-deng-and-pesto-the-newest-baby-animals-gaining-internet-fame?ct=content_open&cv=cbox_featured

https://www.google.com/amp/s/www.livenowfox.com/news/viral-zoo-animals-moo-deng-pesto-fiona.amp

https://www.cnet.com/science/meet-moo-deng-pesto-the-penguin-and-other-viral-animals-we-love-to-love/

https://mashable.com/article/moo-deng-cute-animals-on-social-media

https://www.vox.com/science/376476/moo-deng-pesto-nibi-viral-animals