ข้อมูลจากการบรรยายในงาน FUTR 2025 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

จัดทำโดย บัณฑิต เอนกพูนสินสุข

 

 

 

1. Privacy Keeper – ผู้ให้ความสำคัญกับความเป็นส่วนตัว

ลักษณะเด่น: 

ให้ความสำคัญกับข้อมูลส่วนบุคคลและการจัดระเบียบข้อมูลดิจิทัล (Digital Decluttering)

นิยาม:

ผู้บริโภคกลุ่มนี้จะให้ความสำคัญกับการปกป้องข้อมูลส่วนบุคคลและการรักษาความเป็นส่วนตัวของพวกเขาเป็นอย่างมาก พวกเขามีความระมัดระวังในการแบ่งปันข้อมูลบนช่องทางออนไลน์ และจะแสวงหาแบรนด์และใช้บริการแบรนด์ที่สามารถรับประกันถึงความปลอดภัยทางข้อมูล มีความโปร่งใส และใช้ข้อมูลของพวกเขาอย่างมีจริยธรรม ผู้บริโภคกลุ่มนี้มักใช้แอปพลิเคชันหรือเครื่องมือในการปกป้องความเป็นส่วนตัวของพวกเขา ยกตัวอย่างเช่น ตัวบล็อกการติดตาม (Tracking Blocker), VPN และการสื่อสารแบบเข้ารหัส เพื่อจำกัดการเปิดเผยตัวตนในโลกดิจิทัล

พฤติกรรมและความต้องการ:

• ต้องการการสื่อสารที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลและการขอความยินยอมในการใช้ข้อมูลของพวกเขา
• เลือกใช้และสนับสนุนแบรนด์ที่แสดงออกถึงความโปร่งใสและจริยธรรมในการใช้ข้อมูล
• มีแนวโน้มสูงที่จะหลีกเลี่ยงแพลตฟอร์มหรือบริการที่มีนโยบายความเป็นส่วนตัวที่ไม่ชัดเจนหรือคลุมเครือ
• แสวงหาสินค้าและบริการที่เคารพในรอยเท้าดิจิทัลของพวกเขา (Digital footprint) และให้สิทธิพวกเขาในการควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลของตนเอง

 

บริบทสนับสนุน:

Persona ของผู้บริโภคกลุ่มนี้มีความสอดคล้องกับความรู้สึกของผู้บริโภคในวงกว้างที่เรียกว่า “การมองโลกในเชิงบวกอย่างระแวดระวัง” (Suspicious Optimism) ซึ่งผู้บริโภคยังคงมีความหวังที่จะได้ใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ที่ทันสมัย แต่ยังคงระมัดระวังและพยายามปกป้องตนเองจากการถูกนำข้อมูลไปใช้ในทางที่ผิด โดยเฉพาะเรื่องความเป็นส่วนตัว (Privacy) และการกำกับการใช้งาน AI

ความกังวลและใส่ใจในเรื่องของความเป็นส่วนตัว (Privacy) กลายเป็นแนวโน้มสำคัญที่เกิดขึ้นทั่วโลก ซึ่งส่วนหนึ่งมีผลมาจากการละเมิดข้อมูลที่เพิ่มขึ้น รวมทั้งการเปลี่ยนแปลงและบังคับใช้กฎหมายด้านข้อมูลอย่าง GDPR และ CCPA

ข้อมูลสถิติสนับสนุน:

• 66% ของผู้บริโภคชาวอเมริกันมีความวิตกกังวลเกี่ยวกับความเป็นส่วนตัวบนโลกดิจิทัล เมื่อซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์
• 48% ของผู้บริโภคหยุดซื้อสินค้าจากบริษัททันทีเมื่อพวกเขาเริ่มมีความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวต่อบริษัท
• 83% ของผู้บริโภคมีแนวโน้มซื้อสินค้าจากเว็บไซต์ที่มีการอภิปรายถึงแนวทางการปฏิบัติด้านความเป็นส่วนตัวของข้อมูลอย่างเปิดเผย
• 29% ของผู้บริโภคเปลี่ยนมาตั้งค่าความเป็นส่วนตัวแบบเริ่มต้น (Default) บนอุปกรณ์ของตน 
• 26% ปิดการใช้งานคุกกี้จากบุคคลที่สามเพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัว

 

2. Conventionalist – ผู้นิยมแบบดั้งเดิม

ลักษณะเด่น: 

ชอบไลฟ์สไตล์ที่ช้าลง ใช้ชีวิตอย่างมีจุดมุ่งหมาย (Intentional Lifestyles) และมองหาความสัมพันธ์ที่แท้จริง (Real Connections)

นิยาม:

ผู้นิยมแบบดั้งเดิมให้ค่ากับประเพณี ความน่าเชื่อถือ และความคุ้นเคย/เคยชิน พวกเขาชอบแบรนด์ที่มีชื่อเสียงและเลือกใช้สินค้าและบริการที่ได้รับการพิสูจน์แล้ว มากกว่าการเลือกตามเทรนด์หรือนวัตกรรมการทดลองใหม่ ๆ การตัดสินใจซื้อของพวกเขามักขับเคลื่อนด้วยความไว้วางใจในคุณภาพ ชื่อเสียง และความเรียบง่าย 

พฤติกรรมและความต้องการ:

• ภักดีต่อแบรนด์ที่มีชื่อเสียงมายาวนาน
• แสวงหาความสบายใจบนความสม่ำเสมอ และเลือกใช้สินค้า/บริการที่สามารถคาดเดาได้
• ชอบผลิตภัณฑ์ที่ตรงไปตรงมา ไม่ซับซ้อน และตอบสนองความต้องการพื้นฐานของพวกเขาได้
• ระแวงต่อการเปลี่ยนแปลงที่รวดเร็วหรือนวัตกรรมที่สามารถทำให้อุตสาหกรรมสั่นคลอน

บริบทสนับสนุน: ผู้บริโภคกลุ่มนี้สะท้อนให้เห็นถึงการแสวงหาความมั่นคงท่ามกลางความไม่แน่นอนของโลกและวิกฤตทับซ้อน (Polycrisis) ที่ดำเนินอยู่  

ความคิดของพวกเขาสะท้อนให้เห็นถึงแรงขับทางอารมณ์ที่แสดงออกถึงความเหน็ดเหนื่อย และความปรารถนาที่จะเป็นอิสระจากความรับผิดชอบและหลุดพ้นจากความซับซ้อนที่เกิดขึ้นภายในโลก โดยเลือกทางที่เรียบง่ายและน่าเชื่อถือ ผู้นิยมแบบดั้งเดิมมักเป็นตัวแทนของคนรุ่นเก่าหรือผู้ที่ต่อต้านการเปลี่ยนแปลงทางสังคมที่รวดเร็ว

ข้อมูลสถิติสนับสนุน:

• 74% ของผู้บริโภคเลือกที่จะเชื่อผู้บริโภคที่มีลักษณะคล้ายกับตัวตนของพวกเขา
• 52% ของผู้บริโภค Gen Z รู้สึกดีเมื่อพวกเขา Offline
• 39% ของผู้บริโภคทั่วโลกเชื่อว่าการให้ข้อมูลที่ชัดเจนเกี่ยวกับการใช้ข้อมูลจะช่วยสร้างความไว้วางใจ และเสริมภาพลักษณ์ด้านความโปร่งใสและการแสดงออกถึงตัวตนที่แท้จริงของแบรนด์ได้ 
• 56% ของผู้บริโภคตรวจสอบความปลอดภัยของเว็บไซต์ก่อนทำการชำระเงินซื้อสินค้า/บริการออนไลน์ แสดงให้เห็นถึงความระมัดระวังและความรอบคอบต่อการมีปฏิสัมพันธ์ดิจิทัลของผู้บริโภคที่เพิ่มมากขึ้น

 

3. The New Independent – ชาวอิสระใหม่

ลักษณะเด่น: 

ให้คุณค่ากับความจริงแท้ ความโปร่งใส และความระมัดระวัง 

นิยาม:

ชาวอิสระใหม่คือผู้ที่ให้คุณค่ากับความเป็นอิสระ ชอบพึ่งพาตนเอง และมีความเชี่ยวชาญในเทคโนโลยี (Digital Savvy) พวกเขาแสวงหาประสบการณ์ในรูปแบบเฉพาะบุคคล (Personalised Experiences) ที่ช่วยเสริมสร้างความเป็นปัจเจกของตนและรองรับไลฟ์สไตล์ที่เปลี่ยนแปลงอยู่เสมอได้ นวัตกรรม การปรับรูปแบบเฉพาะบุคคล และความเป็นอิสระจากข้อจำกัดแบบดั้งเดิม เป็นกุญแจสำคัญในการเข้าถึงผู้บริโภคกลุ่มนี้

พฤติกรรมและความต้องการ:

• เรียกร้องสินค้าและบริการที่สามารถปรับแต่งได้เฉพาะตัวที่สะท้อนได้ถึงเอกลักษณ์ความเป็นตัวตนของพวกเขา
• ยอมรับในเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มดิจิทัลใหม่ ๆ ที่ช่วยเข้ามาเสริมสร้างหรือคัดสรรประสบการณ์ของพวกเขา
• ให้ความสำคัญกับแบรนด์ที่สนับสนุนความคิดสร้างสรรค์ การพัฒนาตน และการแสดงออกถึงตัวตน
• มักเป็นผู้ยอมรับเทคโนโลยีใหม่ ๆ และเป็นผู้นำเทรนด์ไลฟ์สไตล์ก่อนผู้อื่น

บริบทสนับสนุน: ผู้บริโภคกลุ่มนี้ถูกขับเคลื่อนด้วยแรงขับทางอารมณ์ที่เรียกว่า “Strategic Joy” หรือ “ความสุขเชิงกลยุทธ์” การบรรลุเป้าหมายที่วางไว้ การได้แก้ไขปัญหาที่ท้าทาย การได้ผลักดันนวัตกรรมการเปลี่ยนแปลงใหม่ ๆ และการมีอิสรภาพอย่างปัจเจกชน คือสิ่งที่ขับเคลื่อนการใช้ชีวิตของพวกเขา พวกเขามักเป็นผู้บริโภคกลุ่มอายุน้อย หรือผู้ที่ทำงานด้านความคิดสร้างสรรค์ และผู้ประกอบการอิสระใหม่ ๆ

 

ข้อมูลสถิติสนับสนุน:

• 28% ของผู้บริโภคเคยใช้สิทธิของตนในฐานะเจ้าของข้อมูล โดยผู้บริโภคกลุ่มวัยรุ่นคือกลุ่มที่มีความกระตือรือร้นมากที่สุด บ่งบอกถึงความระมัดระวังและการสนับสนุนสิทธิด้านข้อมูลส่วนบุคคลของผู้บริโภคที่เพิ่มขึ้น
• 60% ของผู้ซื้อยินดีที่จะแบ่งปันข้อมูลของตนมากขึ้นเพื่อรับประโยชน์ส่วนบุคคลแลกเปลี่ยน เฉพาะเมื่อพวกเขาไว้วางใจแบรนด์และเข้าใจเงื่อนไขในการแลกเปลี่ยนเท่านั้น โดยยังคงเน้นย้ำการให้ความสำคัญกับความโปร่งใสและความแท้จริง
• Gen Z คือกลุ่มผู้บริโภคสำคัญของชาวอิสระใหม่ ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 24% ของประชากรโลก และคาดว่าจะมีอำนาจการซื้อโดยตรงราว 29–143 พันล้านดอลลาร์ หรือราว 944,000 ล้าน – 4.6 ล้านล้านบาท เฉพาะในตลาดสหรัฐอเมริกา

4. The Energiser – ผู้เติมพลัง

ลักษณะเด่น: 

แสวงหาความสนุกสนาน การเล่น และการเชื่อมต่อทางอารมณ์

นิยาม:

ผู้เติมพลังคือกลุ่มผู้บริโภคที่มีพลังในตนเองสูง พวกเขามีความกระตือรือร้นในการร่วมแก้ไขและพัฒนาสังคม พวกเขาต้องการมีส่วนร่วมในชุมชน และต้องการประสบการณ์ใหม่ ๆ ผู้บริโภคกลุ่มนี้มักเป็นผู้นำเทรนด์และ Influencer ที่แสวงหาแบรนด์ที่มอบความตื่นเต้น ความยั่งยืน และผลกระทบที่มีความหมาย (Meaningful Impact)

พฤติกรรมและความต้องการ:

• มีส่วนร่วมอย่างมากในกิจกรรมทางสังคมและชุมชน ทั้งในช่องทางออนไลน์และออฟไลน์
• ถูกตกโดยแบรนด์ที่มีประวัติด้านความยั่งยืนที่เข้มแข็งและมีจุดยืนด้านการพัฒนาสังคมที่ชัดเจน
• ปรารถนาประสบการณ์และผลิตภัณฑ์ที่ให้ความรู้สึกดื่มด่ำ มีส่วนร่วม และสอดคล้องกับค่านิยมของพวกเขา
• เป็นผู้ขับเคลื่อนเทรนด์และมีอิทธิพลต่อรูปแบบการบริโภคของเพื่อนวัยเดียวกัน

บริบทสนับสนุน: ผู้เติมพลังถูกขับเคลื่อนด้วย “Strategic Joy” หรือ “ความสุขเชิงกลยุทธ์” เช่นเดียวกัน พวกเขาต้องการสร้างการเปลี่ยนแปลงผ่านความหลงใหลและมุมมองการมองโลกในแง่บวก ผู้บริโภคกลุ่มนี้มักเป็นผู้บริโภคที่อายุน้อย มีจิตสำนึกทางสังคม และให้ความสำคัญกับการบริโภคอย่างมีจริยธรรมและดำรงชีวิตในรูปแบบไลฟ์สไตล์ที่กระตือรือร้นและชอบความสนุกสนาน ในบางครั้งความบ้า ๆ บอ ๆ คือกลยุทธ์ที่สำคัญในการพิชิตใจผู้บริโภคกลุ่มนี้

 

ข้อมูลสถิติสนับสนุน:

• ผู้บริโภคหลักในกลุ่มนี้คือ Gen Y Gen Z และ Gen Alpha เฉพาะแค่ Gen Z นั้นก็มีสัดส่วนถึง 24% ของประชากรโลก โดยพวกเขามาพร้อมกับแนวคิด YOLO  (You only live once)
• จากผลสำรวจพบว่าโดยเฉลี่ยแล้วผู้บริโภคกลุ่ม Gen Z ใช้เงินกับบริการ Streaming เกม ประมาณ $157 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 5,100 บาท ต่อเดือน ในขณะที่จ่ายค่าอาหารค่ำและกิจกรรมทางสังคมราว $166 ดอลลาร์สหรัฐ หรือ ประมาณ 5,400 บาท สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงการให้ความสำคัญต่อกิจกรรมเพื่อความบันเทิงที่พวกเขามี

 

ที่มา: 

• การบรรยายในงาน FUTR 2025 ณ กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร หัวข้อ Future Consumer 2027: Winning Minds & Market Share โดย Carla Buzasi, CEO, WGSN
• https://mlp.wgsn.com/future-consumer-2027-emotions.html