ChatGPT กับอุตสาหกรรมท่องเที่ยว
นพพล อนุกูลวิทยา
“อาหารไทยเป็นอาหารที่มีชื่อเสียงในทั้งประเทศและต่างประเทศ ในกรุงเทพฯ นักท่องเที่ยวสามารถพบเจออาหารไทยจำนวนมากที่ร้านอาหาร ตลาดนัด และสถานที่ต่าง ๆ เช่น ร้านส้มตำไทย หรือร้านก๋วยเตี๋ยวเรือ ซึ่งเป็นร้านอาหารเล็ก ๆ ที่อยู่ติดริมคลอง”
ข้อความด้านบนเป็นบทความย่อหน้าหนึ่งที่ได้จากการถาม ChatGPT ในคำสั่งที่ว่า ให้เขียนบทความเกี่ยวกับการท่องเที่ยวในกรุงเทพฯ เป็นภาษาไทย
การมาถึงของเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือที่เราเรียกกันว่า AI นั้น เกิดขึ้นมาก่อนหน้าหลายสิบปีและยังถูกนำมาใช้ประโยชน์ในทางธุรกิจกันมาก่อนหน้านี้แล้ว แต่อาจมีการใช้เฉพาะในบางอุตสาหกรรมและยังอยู่ในขอบเขตผู้ใช้งานด้านเทคโนโลยีเป็นหลัก แต่การมาถึงของ ChatGPT และ Bard นั้น ทำให้ผู้คนทั่วไปต้องหันกลับมามองและให้ความสนใจเรื่อง AI กันอีกครั้งหนึ่งด้วยความหวังและความกังวลไปพร้อม ๆ กัน เพราะเป็นการทำให้คนหมู่มากได้เข้าถึงและใช้ประโยชน์กันอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น
ปัจจุบันฝั่ง Microsoft ได้เข้าไปเป็นผู้ถือหุ้นหลักของ ChatGPT แล้ว ซึ่งได้เริ่มให้ Software ในค่าย Microsoft ออกฟังก์ชันที่ให้ ChatGPT เป็นผู้ช่วยในการทำงานบ้างแล้ว และคงจะเพิ่มเติมออกมาอีกเรื่อย ๆ ในขณะที่ฝั่งของ Bard เอง ที่ Google เป็นผู้พัฒนา ซึ่งมีลักษณะคล้ายกับ ChatGPT แม้จะเปิดตัวออกมาทีหลังแต่ก็กำลังเข้ามามีบทบาทสำคัญมากขึ้นใน Search Engine ที่อาจเปลี่ยนไปในอนาคต ข้อได้เปรียบของ Bard ที่น่าสนใจคือ ฐานข้อมูลที่อัปเดตและมีขนาดใหญ่ของ Google เอง ที่จะช่วยให้ Bard ฉลาดขึ้นและอาจให้คำตอบที่แม่นยำกว่า ChatGPT
เมื่อเราได้เห็นความสามารถของเจ้า ChatGPT และ Bard แล้ว จะพบว่ามีความเห็นแตกไปในสองกลุ่มใหญ่ ๆ กลุ่มหนึ่งกลัวว่า อาจเกิดการตกงานกันจำนวนมาก แต่อีกกลุ่มมองว่า จะเป็นเครื่องมือที่ช่วยในการทำงานที่ดี ซึ่งสำหรับผมมองว่า สิ่งเหล่านี้จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของการทำงานจากนี้ไปอย่างแน่นอน อาจไม่ถึงขั้นทำให้เราตกงานในเร็ววัน เพราะตัว ChatGPT เอง ก็ยังจำเป็นต้องทำงานภายใต้การกำกับของมนุษย์ รวมถึงการสอบทานความถูกต้องเหมาะสมอีกขั้นหนึ่ง แต่ทักษะการทำงานของเราจะต้องถูกปรับเปลี่ยนมากขึ้น ให้สามารถสื่อสารและใช้ประโยชน์ร่วมกับ AI ซึ่งจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเราให้มากขึ้นอีกด้วย
เราอาจจะเคยได้ยินข่าวคราวการใช้ ChatGPT ในกรณีต่าง ๆ มากมาย ทั้งในเชิงประโยชน์ทางธุรกิจและในเชิงทั่วไป เช่น ใช้ช่วยเขียนโปรแกรม ใช้ช่วยทำข้อสอบ ช่วยร่างหลักสูตรการเรียนการสอน เป็นต้น แล้วสำหรับการใช้งานของฟากฝั่งอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนั้น จะนำมาใช้อย่างไรได้บ้าง
เนื่องจาก ChatGPT เอง มีฐานข้อมูลในภาษาอังกฤษจำนวนมาก จึงทำให้เกิดประโยชน์อย่างยิ่งต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวแบบ Inbound ที่ต้องใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสาร นำเสนอ หรือทำการตลาดกับนักท่องเที่ยว ดังนั้น ChatGPT จึงเป็นตัวช่วยที่ค่อนข้างดีทีเดียว ยกตัวอย่างเช่น
- ใช้ในการช่วยเขียนเนื้อหาข้อมูลการท่องเที่ยว สำหรับบริษัททัวร์ที่กำลังออกเส้นทางท่องเที่ยวใหม่ ๆ ChatGPT ช่วยเขียนโปรแกรมทัวร์ด้วยคำศัพท์ที่สละสลวยและตรงจริตนักท่องเที่ยวได้ดีทีเดียว
- ใช้ในการตรวจทานคำศัพท์หรือแนะนำคำศัพท์ที่เราใช้ภายในเว็บไซต์หรือโบร์ชัวร์นำเสนอ
- ใช้ในการร่างอีเมลพูดคุยกับนักท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นฝ่าย Customer Support ที่อาจให้ช่วยร่างอีเมลขอโทษลูกค้า หรือฝ่ายขายและการตลาด ที่ใช้ร่างอีเมลติดต่อกับนักท่องเที่ยว
- ใช้ในการเขียนบทความด้านการท่องเที่ยวขึ้นหน้าเว็บไซต์ เพื่อประโยชน์ในเชิง SEO (Search Engine Optimization)
การใช้ ChatGPT นั้น ไม่เพียงแค่การใช้งานในกลุ่มเฉพาะหรืองานระดับใดระดับหนึ่ง แต่สามารถใช้ได้ตั้งแต่ระดับบริหารไปจนถึงระดับปฏิบัติงานที่ต้องประสานงานติดต่อกับลูกค้าโดยตรง ซึ่งไม่ว่าเราจะพร้อมหรือไม่พร้อมก็ตาม AI กำลังเก่งขึ้นทุกวันในอัตราเร่งที่เร็วกว่าเรา สักวันหนึ่ง AI จะบังคับให้เราเปลี่ยนแปลงการทำงานในที่สุด ขึ้นอยู่กับว่า AI จะเปลี่ยนให้เราไม่มีงาน หรือทำงานได้มากขึ้นมหาศาล วันนี้เรายังเลือกได้ แต่อนาคต AI จะเลือกให้เราเอง