INDIA TODAY
โดย กองวิจัยการตลาดการท่องเที่ยว (กวจ.)
INDIA กำลังเป็นตลาดที่ทุกคนจับตามอง จากการก้าวขึ้นเป็นประเทศที่มีความสำคัญในอันดับต้นของโลก ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของขนาดประชากร อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจ ความสามารถทางการใช้จ่ายของชาวอินเดีย ซึ่งนับวันจะยิ่งแสดงให้เห็นศักยภาพอันทรงพลังในหลายด้าน มาลองติดตามดูว่ามีประเด็นสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยวอะไรบ้างของตลาดนี้
‘อินเดีย’ ขึ้นแท่นเป็นประเทศที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็น ‘อันดับ 5 ของโลก’
อินเดียกลายเป็นตลาดท่องเที่ยวที่สำคัญของโลก ณ ขณะนี้ จากการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างก้าวกระโดด ปัจจุบันอินเดียมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 5 ของโลก และมีจำนวนประชากรมากที่สุดในโลกหรือราว 1.4 พันล้านคน โดยเป็นประชากรที่มีอายุเฉลี่ยต่ำกว่าประเทศที่มีเศรษฐกิจขนาดใหญ่อื่น ๆ ด้วยอายุเฉลี่ย 28 ปี
สิ่งบ่งชี้อีกตัวที่สะท้อนศักยภาพทางการใช้จ่ายของตลาดอินเดียคือ จำนวนผู้มีฐานะร่ำรวยของอินเดีย (HNWI : high-net-worth individuals) (มีสินทรัพย์ 1 ล้านดอลล่าร์ขึ้นไป) จะเพิ่มสูงกว่า 1.65 ล้านคนในปี 2027
จำนวนมหาเศรษฐีของอินเดีย (ultra-HNWI : ultra-high-net-worth individuals) (มีสินทรัพย์ 30 ล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไป) คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 19,119 คน ในปี 2027 (จาก 12,069 ในปี 2022)
จำนวนอภิมหาเศรษฐีอินเดีย (Billionaires) (มีสินทรัพย์ 100 ล้านเหรียญสหรัฐขึ้นไป) คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็น 195 คน ในปี 2027 (จาก 161 คน ในปี 2022)
การพุ่งทะยานของนักเดินทางชาวอินเดีย
มีการคาดการณ์ว่าการบริโภคสินค้าและบริการ รวมทั้งการท่องเที่ยวเพื่อพักผ่อนและนันทนาการของอินเดียจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าภายในปี 2030 จากการฟื้นตัวของการเดินทางภายหลังสถานการณ์ COVID-19 และความโหยหาที่จะออกเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นของนักเดินทางชาวอินเดีย ปัจจัยเหล่านี้แสดงให้เห็นถึงศักยภาพอันทรงพลังของการเดินทางท่องเที่ยวระหว่างประเทศของอินเดียที่กำลังเริ่มขึ้น
จากคาดการณ์แนวโน้มการเติบโตของ GDP และแนวโน้มการเดินทางระหว่างประเทศของอินเดียที่เพิ่มขึ้น เป็นไปได้ว่าการเดินทางระหว่างประเทศของนักเดินทางชาวอินเดียจะมีศักยภาพในการเติบโตจาก 13 ล้านทริป ในปี 2022 ไปสู่ 80-90 ล้านทริป ภายในปี 2040
ลุย! ความกระหายท่องเที่ยวของนักเดินทางชาวอินเดียได้เริ่มขึ้นแล้ว
ก่อนเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของ COVID-19 ตลาดนักท่องเที่ยวอินเดียขาออกเคยเป็นหนึ่งในตลาดที่เติบโตเร็วที่สุดของทวีปเอเชีย ซึ่งปัจจุบันอินเดียได้กู้คืนตลาดการท่องเที่ยวแล้วกว่าร้อยละ 61 จากก่อนสถานการณ์ COVID-19 ด้วยจำนวนนักท่องเที่ยวระหว่างประเทศ 13 ล้านคน ในปี 2022 ซึ่งนับเป็นการฟื้นตัวที่เร็วกว่าประเทศส่วนใหญ่ในทวีปเอเชีย
‘สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์’ ครองบัลลังก์จุดหมายปลายทางยอดนิยม
นักเดินทางชาวอินเดียกว่าร้อยละ 70 เลือกจุดหมายปลายทางระยะใกล้ที่ใช้เวลาเดินทางไม่เกิน 4 ชั่วโมง และหนึ่งในสามจะเลือกเดินทางท่องเที่ยวในภูมิภาคตะวันออกกลาง ในสัดส่วนใกล้เคียงกับการเลือกจุดหมายปลายทางในเอเชียใต้ สำหรับการเดินทางระยะไกล อเมริกาเหนือและยุโรปตะวันตกเป็นจุดหมายปลายทางที่มีความโดดเด่น โดยประเทศยอดนิยมของนักเดินทางชาวอินเดียในช่วง 10 ปีที่ผ่านมายังไม่เปลี่ยนแปลงมากนัก เช่น สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ สหรัฐอเมริกา ซาอุดีอาระเบีย และประเทศไทย ที่ติดอันดับ 4 ในปี 2023 ทำให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมอันดับ 1 ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ขณะเดียวกันนี้ ได้เริ่มมีการเกิดขึ้นของจุดหมายปลายทางยอดนิยมใหม่ ๆ ที่น่าจับตามอง อย่างเช่น ตุรกี เวียดนาม และจอร์เจีย
‘รสชาติที่แตกต่าง’ ปัจเจกของนักเดินทางชาวอินเดียในแต่ละภูมิภาค
เราไม่สามารถเหมารวมนักเดินทางชาวอินเดียเป็นกลุ่มหนึ่งกลุ่มเดียวได้ เพราะชาวอินเดียในแต่ละภูมิภาคมีความเป็นปัจเจกที่แตกต่างกันออกไป เช่น นักเดินทางชาวอินเดียในภาคเหนือมักนิยมเดินทางไปท่องเที่ยวในสหรัฐอเมริกาและแคนาดา ในขณะที่สองในสามของนักเดินทางจากรัฐเกรละ ภาคตะวันตกเฉียงใต้ ชื่นชอบจุดหมายปลายทางในตะวันออกกลาง ทั้งนี้ความเชื่อมโยงทางวัฒนธรรมกับอินเดียยังคงเป็นปัจจัยสำคัญในการเลือกเมืองปลายทาง
มีสิ่งที่เหมาะกับทุกคนรออยู่ที่ ‘ประเทศไทย’
กว่า 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยได้ริเริ่มแคมเปญทางการตลาดมากกว่า 50 แคมเปญ เพื่อเจาะกลุ่มผู้บริโภคชาวอินเดีย รวมถึงตัวแทนท่องเที่ยวและธุรกิจความสนใจเฉพาะ เช่น แคมเปญท่องเที่ยวที่มุ่งเน้นกลุ่มแต่งงานและคู่รักชาวอินเดีย โดยการวางตำแหน่งทางยุทธศาสตร์ให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางยอดนิยมสำหรับการจัดงานแต่งงานและฮันนีมูน รวมไปถึงแคมเปญสำหรับบริษัทตัวแทนท่องเที่ยว ที่มีการนำเสนอวัฒนธรรมและแหล่งท่องเที่ยวของประเทศไทยอย่างสอดคล้องกับความต้องการของกลุ่มนักเดินทางชาวอินเดียที่มีความหลากหลาย ตั้งแต่กลุ่มที่มีงบประมาณจำกัดไปจนถึงกลุ่มที่มีการใช้จ่ายสูง
ก้าวขึ้นสู่ ‘ผู้ใช้จ่ายทางการท่องเที่ยวรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก’ ในปี 2030
จากรายงานล่าสุดของ Booking.com และ McKinsey คาดการณ์ว่าในปี 2030 นักเดินทางชาวอินเดียอาจขึ้นแท่นเป็นผู้ใช้จ่ายทางการท่องเที่ยวรายใหญ่อันดับ 4 ของโลก โดยคาดการณ์ว่าภายในปี 2030 นักเดินทางชาวอินเดียจะเดินทางเพิ่มขึ้นอีกกว่า 5 พันล้านทริป (รวมการเดินทางภายในประเทศและการเดินทางระหว่างประเทศ) ซึ่งจะก่อให้เกิดการใช้จ่ายทางการท่องเที่ยวสูงขึ้นถึง 410 พันล้านเหรียญสหรัฐ นับเป็นการเพิ่มแบบก้าวกระโดดกว่าร้อยละ 170 จาก 150 พันล้านเหรียญสหรัฐในปี 2019 ประกอบกับจำนวนสนามบินในประเทศที่มีจำนวนเพิ่มขึ้นกว่าสองเท่านับตั้งแต่ปี 2014 อีกทั้งสายการบินในอินเดียยังมีการสั่งซื้อเครื่องบินเพิ่มอีกกว่า 1,000 ลำ ซึ่งจะทำให้จำนวนรวมเครื่องบินของอินเดียเพิ่มขึ้นเป็น 1,500-1,700 ลำ ภายในปี 2030 เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมในการรองรับการเดินทางที่เติบโตขึ้น
‘ประสบการณ์ที่เป็นของแท้และไม่เหมือนใคร’ หน้าหนังสือที่กำลังมองหา
นักเดินทางชาวอินเดียชัดเจนกับสิ่งที่ตนเองต้องการจากการเดินทางมากขึ้น พร้อมที่จะลองประสบการณ์แปลกใหม่ไม่เหมือนใคร โดยต้องเป็นประสบการณ์ที่เป็นของแท้ ไม่ใช่เพียงการสัมผัสหรือทดลองแบบผิวเผิน โดยส่วนใหญ่มักได้รับแรงบันดาลใจจากสื่อโซเชียลมีเดีย ซึ่งมีอิทธิพลสำคัญต่อการก่อให้เกิดแนวความคิดใหม่ ๆ และกระตุ้นให้เริ่มวางแผนออกเดินทางท่องเที่ยว
นมัสเต อินเดีย!
นับได้ว่าอินเดียเป็นอีกหนึ่งตลาดการท่องเที่ยวและการพักผ่อนที่มีศักยภาพและกำลังเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ จุดหมายปลายทางที่ต้องการดึงดูดนักเดินทางชาวอินเดียอาจต้องเริ่มพิจารณากำหนดกลุ่มตลาดเป้าหมาย และการเพิ่มตัวเลือกของสินค้าและบริการที่มีความคุ้มค่า รวมถึงการให้บริการที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการที่หลากหลายของนักเดินทางชาวอินเดีย โดยมุ่งเน้นการสร้างคุณค่าและสร้างความแตกต่างให้มีภาพลักษณ์เป็นจุดหมายปลายทางที่โดดเด่น ตัวอย่างแนวคิดเพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในตลาดอินเดีย มีดังนี้
เชื่อมโยง: ส่งเสริมให้การเดินทางเป็นไปอย่างสะดวกสบาย เช่น กระบวนการสมัครวีซ่าที่รวดเร็วและไม่ซับซ้อน หรือการเปิดให้บริการเที่ยวบินตรง
เย้ายวนใจ: ด้วยการเสนอขายแพ็กเกจที่มีความคุ้มค่า พร้อมนำเสนอตัวเลือกที่มีความหลากหลายเพื่อดึงดูดกลุ่มตลาดเฉพาะ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มครอบครัว คู่รัก หรือนักเดินทางคนเดียว
ให้การต้อนรับ: สร้างเสริมประสบการณ์ที่เป็นมิตรต่อนักเดินทาง เช่น การมีตัวเลือกของอาหารและเครื่องดื่มที่เหมาะสมอย่างอาหารมังสวิรัติและอาหารอินเดีย
ดึงดูดความสนใจ: ออกแบบแคมเปญที่แสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการของนักเดินทางชาวอินเดียได้อย่างสูงสุด และมุ่งเน้นการใช้ช่องทางสื่อสารและการทำตลาดที่เหมาะสม เช่น การนำเสนอสื่อโฆษณาผ่านพันธมิตรสายการบิน หรือผ่านโซเชียลมีเดีย
ปลดล็อกกลุ่มตลาด: ส่งเสริมตลาดนักเดินทางกลุ่ม MICE และกลุ่มเดินทางท่องเที่ยวเพื่อธุรกิจร่วมด้วย โดยกระตุ้นความสนใจในการท่องเที่ยวเพื่อการพักผ่อนในกลุ่มตลาดเหล่านี้ให้มากยิ่งขึ้น
แนวโน้มการเดินทางท่องเที่ยวของนักเดินทางชาวอินเดียปี 2024 โดย Skyscanner
1. 10 จุดหมายปลายทางที่มีการค้นหามากที่สุด
- ดานัง เวียดนาม
- อัลมาตี คาซัคสถาน
- บากู อาเซอร์ไบจาน
- โอซาก้า ญี่ปุ่น
- ฮานอย เวียดนาม
- กระบี่ ประเทศไทย
- บูดาเปสต์ ฮังการี
- เกาะมาเฮ เซเชลส์
- โอ๊คแลนด์ นิวซีแลนด์
- เวียนนา ออสเตรีย
2. จุดหมายปลายทาง 10 อันดับแรก ที่มีอัตราค่าบัตรโดยสารเครื่องบินจากอินเดียลดลงมากที่สุดในปีที่ผ่านมา
- นีซ ฝรั่งเศส
- เจนีวา สวิตเซอร์แลนด์
- โตเกียว ญี่ปุ่น
- มานามา บาห์เรน
- บากู อาเซอร์ไบจาน
- คูเวตซิตี้ คูเวต
- โซล เกาหลีใต้
- โดฮา กาตาร์
- ธากา บังกลาเทศ
- โจฮันเนสเบิร์ก แอฟริกาใต้
‘ความคุ้มค่าของเงินที่จ่าย’ ยังคงเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลต่อการตัดสินใจของนักเดินทางชาวอินเดีย โดยปัจจัยเรื่องค่าบัตรโดยสารเครื่องบินและความน่าสนใจของสถานที่ท่องเที่ยว เป็นสองปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการเลือกจุดหมายปลายทาง ในขณะเดียวกัน กว่าร้อยละ 63 ของนักเดินทางชาวอินเดียมีแนวโน้มใช้จ่ายเพื่อการเดินทางมากขึ้นในปี 2024 เมื่อเปรียบเทียบกับปี 2023 ขณะที่ร้อยละ 25 จะยังใช้จ่ายเท่าเดิม
3. แนวโน้มการท่องเที่ยวที่น่าจับตามองในปี 2024
- นักเดินทางสายคอนเสิร์ต (Gig tripping)
ปี 2024 จะเริ่มเห็นกลุ่มนักเดินทางชาวอินเดียวางแผนเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศเพื่อไปรับชมคอนเสิร์ตศิลปินที่ชื่นชอบมากขึ้น โดยร้อยละ 37 พร้อมที่จะเดินทางไปสัมผัสบรรยากาศคอนเสิร์ตในจุดหมายระยะใกล้ และอีกกว่าร้อยละ 20 ยินดีที่จะบินระยะไกลเพื่อโอกาสในการฟังเพลงที่ชอบแบบสด ๆ ในขณะที่ความคุ้มค่าเงินยังคงเป็นปัจจัยสำคัญ สะท้อนจากข้อมูลที่มีชาวอินเดียอายุระหว่าง 25-34 ปี กว่าร้อยละ 48 วางแผนเข้าร่วมคอนเสิร์ตในประเทศอินเดีย และกว่าร้อยละ 79 จะพิจารณาเข้าร่วมคอนเสิร์ตในต่างประเทศหากเป็นการช่วยให้ประหยัดเงินได้ ข้อมูลจากแอปพลิเคชัน DICE ซึ่งเป็นแอปพลิเคชันซื้อบัตรคอนเสิร์ตระดับโลก พบว่าเมืองปลายทางที่มีงานเทศกาลคอนเสิร์ต และมีนักเดินทางเข้าร่วมมากที่สุดในราคาที่คุ้มค่า ได้แก่ ลีดส์ บอร์โดซ์ โรม มิลาน และปารีส
- พลวัตของตัวละครหลัก (Main character energy)
การออกเดินทางเพื่อสัมผัสประสบการณ์ในสถานที่ต่าง ๆ ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้น จากแรงบันดาลใจในการตามหาสถานที่ที่ใช้ในการถ่ายทำภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ที่โปรดปราน ซึ่งแนวโน้มการเดินทางในลักษณะนี้ยังคงเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ด้วยความปรารถนาที่จะเดินทางไปยังสถานที่ถ่ายทำจริง และจำลองตนเองเสมือนได้สวมบทบาทเป็นตัวละครที่รัก ตัวอย่างเช่น ฉากหลังอันทรงเสน่ห์ของปารีสในละครโทรทัศน์เรื่อง ‘Emily in Paris’ ที่ทำให้นักเดินทางชาวอินเดียกว่าร้อยละ 42 ต้องการที่จะสัมผัสประสบการณ์แบบ ‘Emily Cooper’ ตัวละครหลักในเรื่อง สอดคล้องกับผลสำรวจของ Skyscanner ที่พบว่ามีการค้นหาปารีสเพิ่มขึ้นกว่าร้อยละ 23 ต่อเดือน หลังจาก ‘Emily in Paris’ เปิดตัวซีซั่น 3 เมื่อเดือนธันวาคม ปี 2022 แม้ว่าร้อยละ 94 ของนักเดินทางชาวอินเดียจะได้รับแรงบันดาลใจที่จะออกเดินทางตามรอยภาพยนตร์หรือรายการโทรทัศน์ แต่มีเพียงร้อยละ 62 เท่านั้นที่จะมุ่งหน้าต่อด้วยการจองที่พัก
- ผู้นิยมอาหารชั้นเลิศในงบประหยัด (Budget bougie foodies)
อาหารมีบทบาทสำคัญในการก่อให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยว โดยร้อยละ 59 ของนักเดินทางชาวอินเดียระบุว่าเคยเดินทางไปยังจุดหมายปลายทางต่าง ๆ เพียงเพื่อลิ้มรสอาหารในร้านอาหารใดร้านอาหารหนึ่ง ซึ่งการได้รับประทานอาหารท้องถิ่นและได้ลิ้มลองรสชาติอาหารอันเป็นอัตลักษณ์ของพื้นที่ นับเป็นกิจกรรมที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในกลุ่มนักเดินทางชาวอินเดียขณะเดินทางท่องเที่ยวในต่างประเทศ และกว่าร้อยละ 38 ชอบการรับประทานอาหารมากกว่ากิจกรรมอื่น ๆ
ในขณะเดียวกัน ยังมีนักเดินทางชาวอินเดียจำนวนมากที่นำการรับประทานอาหารชั้นเลิศออกจากลิสต์รายการท่องเที่ยวของตน เพราะกำหนดงบประมาณไว้อย่างจำกัด ทั้งนี้ ยังมีจุดหมายปลายทางอีกมากมายที่มีตัวเลือกของอาหารที่หลากหลายและมีความคุ้มค่า อย่างโอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งกำลังเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางที่ได้รับความนิยมในปี 2024 จากการมีร้านอาหารที่ได้รับมิชลินสตาร์กว่า 93 แห่ง และหลายแห่งตอบโจทย์นักเดินทางชาวอินเดียด้วยราคาที่คุ้มค่า ไม่เกินงบที่ตั้งไว้
- จุดหมายปลายทางเพื่อการนอนหลับ (อย่างมีประสิทธิภาพ) (Destination Zzzz)
การท่องเที่ยวเพื่อการนอนหลับเป็นอีกแนวโน้มหนึ่งที่กำลังเติบโตในโลกปัจจุบัน ในยุคที่ผู้คนต้องเผชิญกับความวุ่นวาย ทำให้การนอนหลับในแต่ละคืนผ่านไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ การพักผ่อนด้วยการนอนหลับจึงกำลังเป็นที่นิยมมากขึ้น นักเดินทางชาวอินเดียกว่าครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ 46) กล่าวว่าพวกเขาไม่ได้นอนหลับอย่างพอเพียงตามที่ได้รับคำแนะนำ หรือ 7-8 ชั่วโมงต่อคืน จึงไม่น่าแปลกใจที่กว่าหนึ่งในห้าของนักเดินทางชาวอินเดียจะกล่าวว่าการนอนหลับจะเป็นกิจกรรมหลักในการเดินทางท่องเที่ยวทริปต่อไป จากข้อมูลยังพบอีกว่า ฮอยอัน ซานโตรินี และโรม เป็นเมืองที่มีโรงแรมที่ได้รับคะแนนด้านคุณภาพการนอนหลับที่ดีที่สุด
4. การท่องเที่ยวที่ใช่ (Travel types)
นอกเหนือจากการแสวงหาประสบการณ์และกลิ่นอายทางวิถีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์แล้ว นักเดินทางชาวอินเดียยังวางแผนการเดินทางโดยคำนึงถึงจิตวิญญาณความเป็นตัวตนของตนเองร่วมด้วย โดยนักเดินทาง 3 กลุ่มที่มีพฤติกรรมเป็นตัวกำหนดทิศทางการเดินทางท่องเที่ยว ได้แก่
- นักผจญภัยแบบแอนะล็อก
Gen Z เบื่อกับการโพสต์หรือเซลฟีลงบนโซเชียลมีเดีย และเริ่มกลับไปหลงใหลเทคโนโลยียุคเก่าเพื่อใช้บันทึกการเดินทางของตนเอง โดยมองว่าการเดินทางไม่ได้เป็นเพียงการถ่ายรูปและโพสต์จากโทรศัพท์มือถือ จากข้อมูลพบว่า ร้อยละ 24 ของชาวอินเดียอายุระหว่าง 18-24 ปี เคยใช้กล้องโพลารอยด์ถ่ายภาพในวันหยุด อีกร้อยละ 23 พกแผ่นเสียงไวนิลระหว่างเดินทางเพื่อสัมผัสประสบการณ์ที่มีความลึกซึ้งมากขึ้น และอีกร้อยละ 22 ยังใช้กล้องฟิล์ม 35 มม. เก็บภาพความทรงจำของตน
- นักเดินทางเพื่อการเฉลิมฉลอง
การเดินทางท่องเที่ยวนับเป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ใช่ในการเฉลิมฉลองโอกาสพิเศษ ซึ่งนักเดินทางชาวอินเดียต่างเห็นด้วยกับแนวคิดนี้ สะท้อนจากข้อมูลที่ว่า ร้อยละ 81 ของนักเดินทางชาวอินเดียสร้างทริปกลุ่มเพื่อฉลองวันเกิดหรือวันครบรอบ และอีกร้อยละ 15 กล่าวว่าการเดินทางเพื่อเฉลิมฉลองคือสิ่งที่พวกเขาอยากทำ เมื่อกล่าวถึงจุดหมายปลายทางเพื่อการเฉลิมฉลองพบว่า ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และประเทศไทย เป็นจุดหมายปลายทางที่มีภาพลักษณ์แห่งความสนุกสนาน ทำให้ได้รับความนิยมมากที่สุดในการท่องเที่ยวกับกลุ่มเพื่อนและครอบครัว ข้อมูลยังระบุอีกว่า นักเดินทางชาวอินเดียร้อยละ 43 รู้วิธีที่จะสื่อสารกับกลุ่มของตนเองเมื่อออกเดินทางท่องเที่ยว ในขณะที่ร้อยละ 52 พบว่าเป็นการยากที่จะตัดสินใจเรื่องจุดหมายปลายทางร่วมกัน ส่วนร้อยละ 48 พบว่าแม้กระทั่งการตัดสินใจเรื่องวันที่ในการเดินทางท่องเที่ยวก็เป็นเรื่องยาก และอีกร้อยละ 45 เห็นว่าการตกลงเรื่องค่าใช้จ่ายกับกลุ่มของตนเองเป็นเหตุผลสำคัญที่ทำให้พวกเขาหลีกเลี่ยงการท่องเที่ยวแบบกลุ่ม
- นักค้นหาความหรูหรา ในราคาที่ใช่
แม้จะมีข้อกังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายในการดำรงชีวิต แต่นักเดินทางชาวอินเดียก็พร้อมที่จะจ่ายเพิ่มขึ้นอีกเล็กน้อย เพื่อให้ได้รับความสะดวกสบายที่มากขึ้น ดังจะเห็นจากข้อมูลว่าปี 2024 มีแนวโน้มที่นักเดินทางจะอัปเกรดที่นั่งเครื่องบินมากขึ้น โดยนักเดินทางชาวอินเดียร้อยละ 37 มองหาประสบการณ์ที่ดีขึ้นจากการจองบัตรโดยสารเครื่องบินชั้นธุรกิจหรือชั้นหนึ่ง และอีกร้อยละ 44 วางแผนที่จะใช้บริการห้องรับรองสายการบินเพื่อเป็นการเริ่มต้นวันหยุดอย่างดีที่สุด อย่างไรก็ตาม ความหรูหราแบบ 5 ดาวไม่จำเป็นต้องมีราคาที่สูง ยังมีโรงแรม 5 ดาวที่น่าทึ่งอีกมากกระจายอยู่ทั่วโลก ที่ให้ทั้งความคุ้มค่าและราคาที่เหมาะสม ตัวอย่างเช่น โรงแรม 5 ดาวในกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ฮอยอัน ประเทศเวียดนาม รวมไปถึงโรงแรม 5 ดาวในจังหวัดเชียงใหม่ ประเทศไทย
5. อนาคตของการท่องเที่ยว (Looking forward)
ความยั่งยืนและเทคโนโลยี AI เป็นสองปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ส่งอิทธิพลต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปี 2024 นี้ โดยเทคโนโลยี AI ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทในการเป็นผู้ช่วยวางแผนการท่องเที่ยว จากข้อมูลพบว่ามีนักเดินทางจากทั่วโลกกว่าร้อยละ 44 ที่ใช้เทคโนโลยี AI ในการวางแผนและศึกษาการเดินทาง แต่การประยุกต์ใช้งานเทคโนโลยี AI ยังมีความแตกต่างกันอยู่มากในแต่ละประเทศ เช่น ร้อยละ 45 ของนักเดินทางจากอินเดียใช้เทคโนโลยี AI ในโทรศัพท์ ในขณะที่พฤติกรรมดังกล่าวพบเพียงร้อยละ 8 ในสหราชอาณาจักร ข้อมูลเมื่อปี 2023 ยังพบอีกว่าปัจจัยทางสิ่งแวดล้อมมีความสำคัญต่อการวางแผนเดินทางท่องเที่ยว โดยร้อยละ 64 ของนักเดินทางทั่วโลกเชื่อว่าการท่องเที่ยวที่ยั่งยืนนั้นสำคัญ มีเพียงร้อยละ 18 เท่านั้นที่อาจไม่จ่ายเงินเพิ่มเพื่อตัวเลือกที่มีความยั่งยืนมากขึ้น
ตามดูแนวโน้มท่องเที่ยวล่าสุด
- การท่องเที่ยวเชิงกีฬา: ผู้คนออกเดินทางเพื่อเข้าร่วมมหกรรมกีฬา รวมถึงกิจกรรมการแข่งขันชิงแชมป์ต่าง ๆ มากขึ้น
- เทศกาล: เทศกาลนับเป็นแม่เหล็กขนาดใหญ่ที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้มาเยือนในพื้นที่ ด้วยเทศกาลหรือประเพณีที่มี การเฉลิมฉลองทางวัฒนธรรม สามารถสร้างประสบการณ์ที่มีความลึกซึ้งให้กับนักท่องเที่ยวได้
- การท่องเที่ยวแบบหรูหรา: นักท่องเที่ยวให้ความสำคัญกับการเลือกที่พักที่มีความหรูหรา ร่วมกับการให้บริการที่สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ รวมถึงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกชั้นเลิศ
- การท่องเที่ยวเชิงดาราศาสตร์: การเดินทางท่องเที่ยวเพื่อสัมผัสความน่าพิศวงและความมหัศจรรย์ของจักรวาลและหมู่ดาว
- ท่องเที่ยวนอกฤดูกาล: หลีกหนีจากฤดูกาลท่องเที่ยวยอดนิยม เพื่อโอกาสในการสำรวจแหล่งท่องเที่ยวอย่างสงบ
- ผู้ร่วมเดินทางข้ามเจน: การเดินทางที่ช่วยสร้างความทรงจำและความผูกพันระหว่างปู่ย่าตายายและลูกหลานของพวกเขา
- วันหยุด (ทันที): การจองการเดินทางทันทีและการวางแผนในระยะเวลาสั้น ๆ เป็นแนวโน้มที่กำลังมาแรงในยุคปัจจุบัน
- การเดินทางแบบไม่มีแผน: การเดินทางท่องเที่ยวที่เน้นความยืดหยุ่นและความเป็นไปตามธรรมชาติ ซึ่งจะช่วยสร้างความสนุกสนานจากการค้นพบสิ่งใหม่ ๆ ตลอดการเดินทาง
- การท่องเที่ยวเชิงศาสนา: เริ่มต้นการเดินทางด้วยจิตวิญญาณเพื่อไปยังจุดหมายปลายทางอันศักดิ์สิทธิ์
ที่มา:
แปลและเรียบเรียงจากบทความ ดังนี้
- “From India to the world: Unleashing the potential of India’s tourists” โดย Divya Aggarwal, Margaux Constantin, Kanika Kalra, and Neelesh Mundra, McKinsey & Company
- “Indian travelers are set to be the fourth largest global spenders by 2030” โดย Charmaine Jacob, CNBC Travel
- “Travel Trends 2024: redefining value through experience” โดย Skyscanner
- “The Economic Times, Travel World–1 Jan 2024: Anticipating 202: Emerging travel trends and expectations” โดย Rajeev Kale, President of Thomas Cook, and Daniel D’Souza, President of SOTC