
เมื่ออากาศที่บริสุทธิ์ มีราคาสูงสุด ในการท่องเที่ยว
เมื่ออากาศที่บริสุทธิ์ มีราคาสูงสุด ในการท่องเที่ยว
ชีวิตในเมืองที่หันมองไปทางไหนก็เห็นฝุ่นทึบไปด้วยความเข้มข้นของ PM 2.5 โมเม้นท์สูดอากาศหายใจสดชื่นหาไม่ได้อีกต่อไป
คำพูดที่ว่า “ต่อไปคงต้องซื้ออากาศหายใจ” ก็คงไม่ได้ไกลตัวเราสักเท่าไหร่แล้ว
อันที่จริง มันเกิดขึ้นแล้วด้วย
#TATREVIEW ขอชวนคุณมาติดตามก้าวแรกๆ ของโลก ที่มีการ ‘ซื้อขายอากาศเพื่อหายใจ’
ปัญหามลพิษทางอากาศ
มีความน่าเป็นห่วง
World Health Organization (WHO) เปิดเผยตัวเลขว่าประมาณ 91% ของเมืองทั่วโลก หรือ 43,000 เมือง ใน 108 ประเทศ กำลังประสบปัญหาคุณภาพทางอากาศ
ในขณะที่ผีซ้ำด้ำพลอย เมื่อเกิดไฟป่าลุกลามทั่วทวีปออสเตรเลีย, รัฐแคลิฟอร์เนีย ในสหรัฐอเมริกา, ประเทศอินโดนีเซีย, ปอดโลกอย่างป่าแอมะซอนในประเทศบราซิล, การเผาสวนเผาไร่ของชาวอินเดียหลังฤดูเก็บเกี่ยวที่ทำให้เมืองนิวเดลี กลายเป็นเมืองที่มีมลพิษมากที่สุดในโลก และล่าสุดที่ภูกระดึง จังหวัดเลย เพลิงไฟได้ทำลายป่าไปอีกหลายร้อยหลายพันไร่ นอกจากพื้นที่ที่เสียไป ยังมีมลภาวะทางอากาศที่ลอยขึ้นไป พร้อมจะส่งต่อไปยังเมืองต่างๆ เท่าที่กระแสลมจะพัดพา แถมเมืองท่องเที่ยวอย่างเชียงใหม่ก็กลายเป็นเมืองที่อากาศอันตรายต่อการหายใจเป็นอันดับที่ 5 ของโลก
แน่นอนว่าปัญหามลพิษ ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของสิ่งมีชีวิต The European Environment Agency’s 2019 รายงานว่ามีชาวยุโรปกว่า 412,000 คน ที่เสียชีวิตก่อนวัยอันควรด้วยปัญหามลพิษ
สอดคล้องกับผลสำรวจของบริษัท PMI หรือ Philip Morris International ผู้ผลิตบุหรี่และยาสูบยักษ์ใหญ่สัญชาติอเมริกัน ที่สำรวจถึงผลกระทบของปัญหาสุขภาพของคนใน 31 ประเทศ ซึ่งชี้ว่าปัญหามลพิษทางอากาศมีความน่าเป็นห่วงเทียบเท่ากับปัญหาของคนสูบบุหรี่
ออกเดินทางท่องเที่ยว เพื่อหลีกหนีมลพิษทางอากาศ
ในเมื่อแถวบ้านอยู่แล้วไม่สดชื่น ผู้คนเริ่มออกเดินทางไปเที่ยว แต่พวกเขาไม่ได้ตามหาสถานที่ที่หรูหราในยุคที่อากาศเป็นแบบนี้อีกแล้ว ตึกที่สวยงาม ไม่ได้ตอบโจทย์เท่ากับป่าที่สูงใหญ่
เราเริ่มหันไปหาสถานที่ที่เราอยากเอาปอดเข้าไปฟอก เอาร่างกายเข้าไปเยียวยา ความหรูหราของพวกเขาคืออากาศที่สดชื่น เมืองไหนยิ่งมีต้นไม้เยอะ ร่มเงาที่มีไว้ให้นั่งเล่น เอนกาย มีความคงสภาพเดิมของธรรมชาติ ยิ่งกลายเป็นเป้าหมายใหม่ถัดไปของนักท่องเที่ยวที่ไม่อยากเปิดหน้าต่างมาพบเจอกับมลพิษทางอากาศ
แล้วในไทยล่ะ อยากสัมผัสอากาศบริสุทธิ์จะไปที่ไหนได้บ้าง?
จากข้อมูลของ airvisual.com/Thailand เพื่อที่จะหาบริเวณที่มีอากาศบริสุทธิ์ เหมาะกับการเอาปอดตัวเองไปฟอกสักหนึ่งสัปดาห์ใกล้บ้าน พบว่าพื้นที่ที่อากาศอยู่ในระดับที่เป็นสีเขียวส่วนใหญ่จะอยู่ทางภาคใต้ ไล่ลงไปตั้งแต่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดสุราษฎร์ธานีหรือลงไปอีกจนถึงจังหวัดสตูล
อากาศบริสุทธิ์ เป็นสิ่งที่ต้องจ่ายเงินถึงได้มา
เป็นเรื่องตลกร้ายที่สุดท้ายแล้ว ความปกติธรรมดาของธรรมชาติ สิ่งที่เราพยายามดัดแปลงมันให้เปลี่ยนไปสู่นวัตกรรมต่างๆ บนโลกใบนี้ กำลังทำให้เราต้องกลับมาจ่ายเพื่อออกเดินทางไปยังสิ่งที่ไม่ได้ปรุงแต่งอะไรเลย
ความคิดที่ว่าเราจะต้องซื้ออากาศหายใจ จึงไม่ได้เป็นเรื่องไกลตัว เพราะบาร์แห่งหนึ่งในประเทศอินเดีย ผุดไอเดียใหม่ #ขายอากาศบริสุทธิ์ โดยออกซิเจนที่นำมาขายมีความบริสุทธิ์อยู่ที่ 80-90% ค่าบริการครั้งละ 300 รูปี หรือประมาณ 126 บาท มีหลายกลิ่นให้เลือกสรร ไม่ว่าจะเป็น ตะไคร้ ยูคาลิปตัส หรือลาเวนเดอร์
มาถึงก็เลือกกลิ่นที่คุณชอบ แล้วเขาก็จะมีสายยางเส้นเล็กๆ มาพาดที่บริเวณจมูก นอนเอนให้สบายตัวบนโซฟา คล้ายผู้ป่วยที่ต้องการอากาศหายใจในโรงพยาบาล แต่สภาพและสถานที่รอบๆ ตัวดูดีกว่า เพราะเราเองก็ยังไม่ได้ป่วย เมืองต่างหากที่ป่วย ธรรมชาติต่างหากที่ถูกทำจนทุกอย่างมันออกอาการกลายเป็นอากาศแบบนี้ แบบที่ทำให้พวกเขาเหล่านั้น (รวมถึงเราในอนาคต) ต้องเดินหน้าเข้ามาที่บาร์แห่งนี้ เพื่อหาอากาศดีๆ ถึงแม้เพียง 15 นาทีก็ยังดี