SAUDI ‘SUSTAINOVATION’ เปลี่ยน ‘ทะเลทราย’ ให้กลายเป็น ‘โอเอซิส’

 

 

พรรณรศา ธีระวงศ์สกุล

 

 

ภาพจาก New Murabba Press Kit | newmurabba.com

 

“ถ้าต้องประกาศจุดยืนประเทศอีกครั้ง ผมจะทำให้เราเป็นผู้นำแห่ง Green Era ให้ได้”

การประชุมครั้งสำคัญในวันชาติครบรอบปีที่ 92 ของซาอุดีอาระเบียเมื่อปี 2016 ขณะนั้น Mohammed Bin Salman Al Saud หรือ MBS มกุฎราชกุมารหนุ่มวัย 31 ปี มองขาดว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องมีการปฏิรูปครั้งสำคัญขึ้นในตะวันออกกลาง 

‘Vision 2030’ กำลังจะเกิดขึ้นที่นี่ และปลายทางที่ MBS วาดฝันไว้คือการสร้าง ‘สมดุล’ ทางเศรษฐกิจและความ ‘ยั่งยืน’ ในพื้นที่ของซาอุดีอาระเบียในวันที่โลกกำลังเปลี่ยนไป

ไม่นานนัก โปรเจกต์ต่าง ๆ ที่เปรียบเสมือนลายแทงการพัฒนาประเทศเพื่อมุ่งสู่เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน ด้วยการปรับเทคโนโลยีมาใช้เพื่อการดูแลสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนทยอยเผยแพร่ออกสู่สายตาคนทั่วโลก รวมถึง Giga project แผนสร้างเมืองอัจฉริยะในฝันที่ถูกพูดถึงในระดับนานาชาติ มวลความตื่นตาตื่นใจจากทั่วโลกจึงส่งไปที่ซาอุดีอาระเบียทันทีในจังหวะที่ปัญหาสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องใหญ่ของโลกเช่นนี้ หากทำได้จริง ๆ นี่อาจจะเป็นครั้งแรก ๆ ที่โลกผสานเอาเทคโนโลยีสุดล้ำมาเปลี่ยนคุณภาพชีวิตและยังเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากที่สุดที่เคยมีมา

 

ภาพจาก New Murabba Press Kit | newmurabba.com

 

คำแห่งยุค ‘Green Tech, Climate Tech’ 

บางทีการใช้ชีวิตอยู่บนโลกแห่งความวุ่นวายอาจทำให้เราลืมจัดลำดับความสำคัญ ว่าอะไรคือวาระของโลกที่ต้องได้รับการเยียวยาอย่างเร่งด่วน

Gartner บริษัทวิจัยและที่ปรึกษาธุรกิจชั้นนำระดับโลกเปิดเผยว่า เทรนด์เทคโนโลยีในเชิงกลยุทธ์ทั้งหมดในปี 2023 จะครอบคลุมในเรื่องความยั่งยืน รวมถึงการลงทุนหรือนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ด้านสิ่งแวดล้อมที่นับวันยิ่งทวีความรุนแรง เช่นเดียวกับ Cisco อีกหนึ่งบริษัทที่ปรึกษาชั้นนำระดับโลกที่ตอกย้ำตรงกันว่าสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืนจะถูกเน้นหนักมากในปีนี้ น่าสนใจว่าผู้นำทางตะวันออกกลางอย่าง MBS ก็กำลังผลักดันโปรเจกต์เม็ดเงินลงทุนที่มีมูลค่ามากกว่า 7 แสนล้านริยาล (ราว 6.4 ล้านล้านบาท) เพื่อมาพัฒนาเศรษฐกิจสีเขียว สร้างงานคุณภาพ และเปิดโอกาสการลงทุนครั้งสำคัญสำหรับภาคเอกชนในซาอุดีอาระเบียเช่นเดียวกัน

 

ภาพจาก New Murabba Press Kit | newmurabba.com

 

พลิกโฉม ‘ริยาด’ เป็นแลนด์มาร์กแห่งนวัตกรรมใหม่ของโลก

จริง ๆ แล้วในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ริยาดมีประชากรไม่ถึงห้าแสนคน ซึ่งถือว่าค่อนข้างน้อยหากเทียบกับจำนวน 7 ล้านคนในปัจจุบัน เมืองนี้จึงไต่ระดับขึ้นมาเป็นเมืองที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 3 ของตะวันออกกลางในที่สุด

‘Murabba’ คือ โปรเจกต์ล่าสุดของ Vision 2030 ซึ่งจะเป็นตัวกระตุ้นชั้นดีที่จะพลิกโฉมให้ริยาดกลายเป็น ‘โมเดิร์นดาวน์ทาวน์’ แห่งใหม่ในตะวันออกกลาง และที่สะดุดตามากที่สุดคือ ‘Mukaab’ สิ่งก่อสร้างรูปทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดมหึมาที่ตั้งอยู่ใจกลางพื้นที่ ด้วยความสูง 400 เมตร และกว้างด้านละ 400 เมตร ใหญ่โตมากพอจะบรรจุตึก Empire State ได้ถึง 20 ตึก ภายใน ‘Mukaab’ จะอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีขั้นสูง นับเป็นการรวมเอานวัตกรรมใหม่ล่าสุดที่มีบนโลกใบนี้มาเสริมประสบการณ์สุดล้ำให้กับผู้มาเยี่ยมเยือน

ตามข้อมูลการเปิดตัวโครงการ ‘Murabba’ มีพื้นที่เกือบ 22 ล้านตารางฟุตหรือประมาณหนึ่งในสามของแมนฮัตตัน ชูแนวคิดการพัฒนาอย่างยั่งยืนคู่ขนานไปกับการใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เน้นพื้นที่สีเขียว มีเส้นทางเดินและทางจักรยานโดยรอบ ตอบโจทย์คุณภาพชีวิตและสุขภาพที่ดีด้วยไลฟ์สไตล์ที่มีชีวิตชีวา และการส่งเสริมให้เกิดกิจกรรมภายในคอมมูนิตี้ นอกจากนี้ยังมีพิพิธภัณฑ์ดี ๆ มหาวิทยาลัยด้านเทคโนโลยีและการออกแบบที่ทันสมัย รวมถึง Immersive Theatre หรือโรงละครเวทีรูปแบบใหม่ที่คนดูมีส่วนร่วมกับการแสดง และพื้นที่ใช้สอยด้านศิลปวัฒนธรรมและเอนเตอร์เทนเมนต์อีกกว่า 80 แห่ง

ด้วยขนาดพื้นที่ใช้งานและรูปทรงที่ดูธรรมดาแต่ไม่ธรรมดา ทำให้พอเดาได้ว่าโปรเจกต์นี้อาจทำให้ตึกระฟ้าทั่วโลกต้องขนลุกอยู่ไม่น้อย เพราะ ‘Murabba’ จะถูกออกแบบมาให้มีทุกอย่างตั้งแต่ไม้จิ้มฟันยันเรือรบ ไม่ว่าจะเป็นสถานที่ท่องเที่ยว โรงแรมที่พัก ที่อยู่อาศัย และพื้นที่เชิงพาณิชย์ ตึกนี้ยังมีกุญแจสำคัญอีกอย่างนั่นคือการออกแบบประสบการณ์ ปลดล็อกศักยภาพของสถาปัตยกรรมยุคใหม่ที่มีความโดดเด่นโดยการรวมเอาที่สุดของเทคโนโลยีมาผสมผสาน เพื่อยกระดับให้แลนด์มาร์กนี้เป็นจุดหมายปลายทางใหม่แห่งการเดินทาง และความคาดหวังให้ริยาดกลายเป็น 1 ใน 10 เมืองที่น่าอยู่ที่สุดของโลกในอนาคตอันใกล้

 

ภาพจาก New Murabba Press Kit | newmurabba.com

 

Hi tech. Hi touch.

ถ้าทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์ ‘Mukaab’ จะกลายเป็นจุดหมายปลายทางที่สะท้อนประสบการณ์ความสมจริงด้วยการใช้เทคโนโลยี Immersive ด้วยเทคนิคโฮโลกราฟิกแห่งแรกของโลก ที่ให้ความรู้สึกสมจริงประหนึ่งว่าเรากำลังอยู่บนดาวอังคารหรือบางแห่งที่อยู่นอกโลก หากดูตามสื่อที่ใช้ประชาสัมพันธ์โครงการ นักท่องเที่ยวจะได้สัมผัสประสบการณ์ราวกับว่ากำลังดำดิ่งลงไปใต้ทะเลลึก หรือกำลังลอยตัวอยู่เหนือวิวหุบเขา Hallelujah แบบพาโนรามา เหมือนอย่างใน Avatar ภาพยนตร์แอนิเมชันสามมิติชื่อดัง ซึ่งดูเหมือนว่าเหล่าผู้ออกแบบตั้งใจที่จะทำให้สิ่งนี้เป็นท้องฟ้าจำลองขนาดมหึมาในรูปแบบ VR นั่นเอง 

 

ภาพจาก New Murabba Press Kit | newmurabba.com

 

‘Green Initiative’ รักษ์โลกแบบสับ ปลูกต้นไม้หมื่นล้านต้น

การเดินว่อนในริยาดในช่วงพฤษภาคมที่อากาศร้อนระดับ 45 องศาแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย ด้วยสภาพภูมิอากาศและปริมาณน้ำจืดที่จำกัด เมืองทะเลทรายอย่างริยาดจึงปลูกต้นไม้เท่าที่จำเป็น ทำให้มลพิษทางอากาศและอุณหภูมิในพื้นที่มีแนวโน้มจะสูงขึ้นเรื่อย ๆ ‘Green Initiative’ จึงเกิดขึ้นมาด้วยสมการที่ว่า การปรับปรุงคุณภาพอากาศ ‘เท่ากับ’ การปลูกต้นไม้

สัดส่วนพื้นดินป่าสีเขียวของซาอุดีอาระเบียอยู่ที่ประมาณ 0.5% ซึ่งคงที่มาตั้งแต่ปี 1990 สวนทางกับการคาดการณ์ที่ระบุว่าอุณหภูมิในประเทศมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นเร็วกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกในอีกไม่กี่ทศวรรษข้างหน้า ภายใต้สถานการณ์การปล่อยมลพิษที่มีผลกระทบมากมาย คาบสมุทรอาหรับจึงอาจไม่เอื้อต่อการอยู่อาศัยภายในสิ้นศตวรรษที่ 21 

เป้าใหญ่ของ ‘Green Initiative’ คือการเตรียมความพร้อมรับมือกับ Climate change เน้นการใช้พลังงานหมุนเวียน แน่นอนว่าความเคลื่อนไหวดังกล่าวได้รับการสนับสนุนจาก MBS นักคิดด้านความยั่งยืน ผู้ปกครองของซาอุดีอาระเบีย

 

 

ภาพจาก New Murabba Press Kit | newmurabba.com

 

ในภูมิทัศน์ด้านความยั่งยืน ซาอุดีอาระเบียกำลังเผชิญกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมมากมายซึ่งเป็นภัยคุกคามทางเศรษฐกิจอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ คาดการณ์ว่ามลพิษทางอากาศจากก๊าซเรือนกระจกจะส่งผลกระทบต่ออายุเฉลี่ยของประชาชนที่มีแนวโน้มลดลงในระยะเวลาหนึ่งปีครึ่ง โดยหนึ่งในภารกิจสำคัญคือการปลูกต้นไม้ให้ได้ 10,000 ล้านต้นภายใน 10 ปีข้างหน้า ซึ่งเทียบเท่ากับการฟื้นฟูแผ่นดินเสื่อมโทรมกว่า 250 ล้านไร่ เพิ่มพื้นที่สีเขียวได้ราว 12 เท่า เปิดโอกาสให้ซาอุดีอาระเบียมีกลไกการดูดซับคาร์บอนตามธรรมชาติ เพื่อรักษาชีวิตสัตว์ทะเลต่อไป

แม้ยังมีข้อกังวลใจมากมายเกี่ยวกับความเป็นไปได้ของ Vision 2030 แต่ก็เป็นที่ชวนให้น่าติดตามว่า ในอนาคตข้างหน้า โครงการต่าง ๆ อย่าง ‘Murabba’ จะช่วยสานฝันให้ซาอุดีอาระเบียไปถึงเส้นชัยได้อย่างราบรื่นหรือไม่ 

อย่างน้อยที่สุดเราได้เห็นกับตาว่าความมุ่งมั่นของประเทศใหญ่ ๆ ในการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมได้เกิดขึ้นจริงแล้ว และหากทุกอย่างเป็นไปด้วยดี เท่ากับซาอุดีอาระเบียกำลังสื่อสารกับประชาคมโลกให้รู้ว่าในฐานะผู้บุกเบิกการใช้พลังงานฟอสซิลรายใหญ่ของโลก บัดนี้ ‘Vision 2030’ กำลังเข้ามาทรานส์ฟอร์มแนวคิดการพลิกผืนทรายแห่งนี้ให้กลายเป็นจุดหมายปลายทางแห่งการท่องเที่ยวยุคใหม่ตามวิถีแห่ง ‘ความยั่งยืน’ อย่างแท้จริง

 

ภาพจาก New Murabba Press Kit | newmurabba.com

 

 

 

ที่มา:

 

New Murabba project to feature global icon Mukaab, https://newmurabba.com/index.html.

 

Saudi 92nd National Day: Major breakthroughs since Vision 2030 rollout, 22 September 2022, https://www.argaam.com/en/article/articledetail/id/1589685.

 

 

Castelier, Sebastian, and Salam Faraj. “Saudi Arabia plans to plant 10 billion trees in the desert.” Al-Monitor, 19 May 2021, https://www.al-monitor.com/originals/2021/05/saudi-arabia-plans-plant-10-billion-trees-desert.

 

Landymore, Frank. “Saudi Arabia Announces Gigantic Cubed Skyscraper Filled With Holographic Worlds.” Futurism, 18 February 2023, https://futurism.com/the-byte/saudi-arabia-cubed-skyscraper.

 

Taha, Rawad. “Saudi Arabia will host inaugural Green Middle East Initiative Summit in October.” Al Arabiya, 2 September 2021, https://english.alarabiya.net/News/gulf/2021/09/02/Saudi-Arabia-will-host-inaugural-of-Green-Middle-East-Initiative-Summit-in-October.

 

 

 

Share This Story !

4.7 min read,Views: 1359,

Related projects

  • ¡Hola! Spanish Travelers

    พฤศจิกายน 27, 2024

  • ‘เรื่องเล่น’ เรื่องเล็กน้อยมหาศาล

    พฤศจิกายน 27, 2024

  • ‘DESERT SUPERCITY’ มหานคร แห่งทะเลทราย

    พฤศจิกายน 27, 2024