จัดทำโดย งานวิเคราะห์ตลาดในประเทศ กองกลยุทธ์การตลาด วันที่ 30 มิถุนายน 2568

 

 

สถานการณ์การท่องเที่ยวตลาดในประเทศภาพรวมเดือนเมษายน-มิถุนายน 2568 มีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 52.31 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 และมีรายได้ทางการท่องเที่ยว 301,967 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยว 55 เมืองน่าเที่ยวมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนและรายได้อยู่ที่ร้อยละ 3 ส่งผลให้เมืองน่าเที่ยวในช่วง 3 เดือนมีสัดส่วนเพิ่มขึ้นเป็น 41% และ 27% ตามลำดับ 

ปัจจัยสนับสนุน

1. มีวันหยุดยาวหลายช่วง อาทิ เทศกาลมหาสงกรานต์ วันฉัตรมงคล วันพืชมงคล วันวิสาขบูชา และวันเฉลิมพระชนมพรรษาสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี 
2. กิจกรรมส่งเสริมการตลาดของ ททท. ร่วมกับพันธมิตร อาทิ การจัดคอนเสิร์ตดนตรีของ GOT7 และ Jeff Satur เทศกาลงานประเพณีบุญบั้งไฟ จ.ยโสธร ประเพณีผีขนน้ำ จ.เลย กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬา (Kite Like จ.นนทบุรี Amazing Phare Marathon จ.แพร่)
3. การจัดเส้นทางท่องเที่ยวด้วยรถไฟขบวน Royal Blossom เส้นทางกรุงเทพฯ–หัวหิน กรุงเทพฯ-เพชรบุรี และขบวนรถไฟสไตล์ญี่ปุ่น KIHA 183 เส้นทางจากกรุงเทพฯ–กาญจนบุรี

ปัจจัยอุปสรรค

1. ภาวะเศรษฐกิจภายในประเทศ หนี้ครัวเรือนและอัตราเงินเฟ้อสูง 
2. การเดินทางท่องเที่ยวต่างประเทศของคนไทย โดยได้รับแรงหนุนจากการทำโปรโมชันราคาบัตรโดยสารระหว่างประเทศของประเทศในแถบเอเชีย อาทิ ฮ่องกง จีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น
3. สภาพอากาศแปรปรวน ซึ่ง 2 เดือนแรกของไตรมาสเป็นช่วงที่อากาศร้อนจัด และเดือนที่สามของไตรมาสเริ่มเข้าสู่ฤดูฝน อาจส่งผลให้คนไทยบางส่วนหลีกเลี่ยงการเดินทางท่องเที่ยว

 

สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวรายภูมิภาคเดือนเมษายน-มิถุนายน 2568 คาดว่า เกือบทุกภูมิภาคมีการเติบโตเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยมีรายละเอียดดังนี้

 

กรุงเทพมหานคร คาดว่าทั้งจำนวนและรายได้ของผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยมีแนวโน้มชะลอตัวลงเล็กน้อยประมาณร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา โดยมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนประมาณ 7.21 ล้านคน-ครั้ง และรายได้ 73,690 ล้านบาท

ปัจจัยสนับสนุน

• กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ททท. ร่วมกับพันธมิตร ภายใต้แคมเปญ “Amazing Thailand Grand Tourism & Sports Year 2025” Maha Songkran World Water Festivals 2025 (11-15 เมษายน 2568) ณ ท้องสนามหลวง รวมถึงจัดงานสงกรานต์ทั่วกรุงเทพฯ อาทิ ถนนข้าวสาร ถนนสีลม เซ็นทรัลเวิลด์ สยามสแควร์ บรรทัดทอง เป็นต้น โดยมียอดผู้เข้าร่วมงานสงกรานต์ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศรวมทั้งหมด 2,883,389 คน ช่วยกระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการรอบพื้นที่จัดงาน ทั้งร้านอาหาร ชอปปิง และการขนส่ง กิจกรรม Bangkok Pride Festival 2025 ตอกย้ำภาพลักษณ์ของกรุงเทพฯ ในฐานะมหานครแห่งความหลากหลายและน่าอยู่สำหรับทุกคน งานศิลปะและวัฒนธรรมระดับโลกที่จะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูง อาทิ งาน “KAWS: HOLIDAY THAILAND” ณ ท้องสนามหลวง กรุงเทพฯ (3-25 พฤษภาคม 2568) นิทรรศการ “THE BOOTLEG SHOW” โดยศิลปิน MRKREME (5 เมษายน – 29 มิถุนายน 2568) MOCA BANGKOK Kick Off Doraemon in Town นิทรรศการริมน้ำของโดราเอมอนและผองเพื่อน (1 พฤษภาคม – 22 มิถุนายน 2568) Mango Art Festival 2025 (7-11 พฤษภาคม 2568)
• กิจกรรมส่งเสริม Soft Power อาทิ เทศกาลดนตรีระดับนานาชาติ อาทิ FSOE & Subculture Thailand 2025 (4-5 เมษายน 2568) G Circuit สงกรานต์ กรุงเทพ 2025 (11-14 เมษายน 2568) SIAM SONGKRAN MUSIC FESTIVAL 2025 (11-14 เมษายน 2568) S2O Songkran Music Festival (12-14 เมษายน 2568) ช่วยดึงกลุ่มแฟนคลับและคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบดนตรีเข้าร่วมกิจกรรม กิจกรรมท่องเที่ยวเชิงกีฬา อาทิ Bangkok 21K Park Run (4 พฤษภาคม 2568) Supersports 10 Mile Run 2025 (18 พฤษภาคม 2568) (มีผู้เข้าร่วมประมาณ 8,000 คน) ก้าวท้าใจ 10K Thailand Championship (15 มิถุนายน 2568) (มีผู้เข้าร่วมประมาณ 7,000 คน) “ยกทัพรัน” มันส์ยกทีม ทีมลิง ทีมยักษ์ รักการวิ่ง (15 มิถุนายน 2568) 

 

ภาคกลาง (รวมภาคตะวันตก) คาดว่าจะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 16.83 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 0.4 และมีรายได้ทางการท่องเที่ยว 51,201 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีที่ผ่านมา สำหรับสถานการณ์ท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยว คาดว่า ลพบุรี และสุพรรณบุรี มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนและรายได้ประมาณร้อยละ 4 

ปัจจัยสนับสนุน

• วันหยุดยาวหลายช่วง อาทิ วันจักรี วันสงกรานต์ วันแรงงานแห่งชาติ วันฉัตรมงคล วันพืชมงคล
  วันวิสาขบูชา ทำให้ผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย โดยเฉพาะจากจังหวัดใกล้เคียง วางแผนเดินทางท่องเที่ยวภายในภูมิภาคมากขึ้น 
• กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวของ ททท. ร่วมกับพันธมิตร อาทิ งานเทศกาล Maha Songkran World Water Festival 2025 ที่จัดในหลายจังหวัดทั่วภูมิภาค เช่น นครปฐม สมุทรสงคราม ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา และกาญจนบุรี ทำให้ช่วงการจัดงานทั้งภูมิภาคมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเพิ่มขึ้นร้อยละ 36 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา หรือประมาณ 2,442,550 คน (รายงานสรุปการเดินทาง (หลังวันหยุด) วันสงกรานต์ พ.ศ. 2568 (12-16 เมษายน 2568) จากระบบ TATIC) การจัดกิจกรรม Pride Month อาทิ งาน Hua Hin Pride Parade 2025 (จ.ประจวบคีรีขันธ์) งาน Ayutthaya Pride Grand Celebration 2025 (จ.พระนครศรีอยุธยา) และงาน We All PRIDE Nakhon Pathom 2025 (จ.นครปฐม) งานกิจกรรมกลางคืน อาทิ งานเทศกาลเพชรบุรีเมืองหนัง (จ.เพชรบุรี) งานแสดงไฟ NaSatta Light Festival 2025 (จ.ราชบุรี) เทศกาลดนตรี Salaya Water Fest 2025 และงานเทศกาลนมัสการปิดทองหลวงพ่อวัดไร่ขิง (จ.นครปฐม) 
• ความนิยมท่องเที่ยวหน้าฝน ส่วนใหญ่เป็นแหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่เหมาะแก่การพักผ่อนและตั้งแคมป์ อาทิ น้ำตกเอราวัณ น้ำตกไทรโยคน้อย บ้านอีต่อง (จ.กาญจนบุรี) น้ำตกชะอม น้ำตกเจ็ดสาวน้อย (จ.สระบุรี) แก่งกระจาน ชะอำ (จ.เพชรบุรี) สวนผึ้ง (จ.ราชบุรี) และอุทยานแห่งชาติเขาสามร้อยยอด (จ.ประจวบคีรีขันธ์) (รายงาน Social Listening ประจำเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2568 จาก กปน.) 
• กระแสแหล่งท่องเที่ยวสายศรัทธา อาทิ วัดใหญ่ชัยมงคล (จ.พระนครศรีอยุธยา) วัดพระปฐมเจดีย์
  (จ.นครปฐม) และโดยเฉพาะพระพุทธรูปแกะสลักบนหน้าผาหิน (ผามังกรบิน) (จ.สุพรรณบุรี) ที่ได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ไตรมาส 1 (รายงาน Social Listening ประจำเดือนเมษายน-พฤษภาคม 2568 จาก กปน.)
• การจัดขบวนรถไฟท่องเที่ยวช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ ด้วยขบวนรถ Royal Blossom (เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน และกรุงเทพฯ-กาญจนบุรี) และขบวนรถ KIHA 183 ไปยัง เพชรบุรี กาญจนบุรี และราชบุรี พร้อมเพิ่มเส้นทางพิเศษกรุงเทพฯ-แก่งคอย (จ.สระบุรี) พาเที่ยวงาน “แก่งคอยย้อนรอยสงครามโลกครั้งที่ 2” 
• ถนนมอเตอร์เวย์ M81 (บางใหญ่-กาญจนบุรี) เปิดให้ใช้ฟรี ช่วงเทศกาลสงกรานต์ (11–17 เมษายน 2568) และทุกวันศุกร์-จันทร์ ตั้งแต่วันที่ 2 พฤษภาคม 2568 เป็นต้นไป ส่งผลให้จังหวัดตามแนวเส้นทางมีสถานการณ์ท่องเที่ยวคึกคักขึ้น โดยเฉพาะกาญจนบุรี ที่มีอัตราการเข้าพักเฉลี่ย (OR) เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 และนครปฐม เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา (รายงานสรุปอัตราการเข้าพักเฉลี่ยรายจังหวัด เดือนเมษายน-พฤษภาคม 2568 ณ วันที่ 4 มิถุนายน 2568) 

ปัจจัยอุปสรรค

• ข่าวสารเชิงลบของวัดไร่ขิง จ.นครปฐม ทำให้มีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยเดินทางมาทำบุญไหว้พระน้อยลง และส่งผลกระทบถึงร้านค้าชุมชนต่าง ๆ โดยรอบบริเวณวัด

 

ภาคตะวันออก มีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง คาดว่าจะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 7.73 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 และมีรายได้ 55,988 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา โดยสถานการณ์เมืองน่าเที่ยว มีเพียง จ.ตราด เท่านั้นที่มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนและรายได้ อยู่ที่ร้อยละ 4 และร้อยละ 3 

ปัจจัยสนับสนุน

• การจัดกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยว อาทิ เทศกาลสงกรานต์และวันไหลสงกรานต์ 2568 ระหว่างวันที่ 17-19 เมษายน 2568 ในพื้นที่จังหวัดชลบุรี ตราด ระยอง จันทบุรี นครนายก ปราจีนบุรี สระแก้ว เทศกาลอาหารพระประแดง จ.สมุทรปราการ ระหว่างวันที่ 30 พฤษภาคม – 8 มิถุนายน 2568 เส้นทางท่องเที่ยวรถไฟ KIHA เส้นทางกรุงเทพฯ-ฉะเชิงเทรา เทศกาลดนตรี เสม็ดอินเลิฟ จ.ระยอง วันที่ 7 มิถุนายน 2568 เทศกาลผลไม้ภาคตะวันออกในพื้นที่จังหวัดระยอง จันทบุรี ตราด นครนายก ระหว่างเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม 2568
• กระแสท่องเที่ยวธรรมชาติหน้าฝน อาทิ เขาช่องลม จ.นครนายก น้ำตกคลองพลู เกาะช้าง จ.ตราด

ปัจจัยอุปสรรค

• ปัญหาความแออัดในแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม อาทิ หาดบางแสน พัทยา 
• ปัญหามลพิษและสิ่งแวดล้อม อาทิ ขยะ น้ำทะเลมีกลิ่นเหม็น มลพิษทางอากาศจากนิคมอุตสาหกรรม

 

ภาคใต้ ทั้งจำนวนการเดินทางและรายได้ลดลง โดยมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนอยู่ที่ 6.12 ล้านคน-ครั้ง ลดลงร้อยละ 1 และรายได้ 53,824 ล้านบาท ลดลงร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สำหรับสถานการณ์เมืองน่าเที่ยวมีอัตราการเติบโตทั้งจำนวนและรายได้เกือบทุกจังหวัดที่เป็นเมืองน่าเที่ยว โดยอยู่ที่ร้อยละ 3-9 ขณะที่เมืองหลักซึ่งเป็นพื้นที่ที่สร้างรายได้หลักให้กับภาคใต้ กลับมีอัตราการเติบโตเพียงเล็กน้อยอยู่ที่ร้อยละ 1-2 ส่งผลให้สถานการณ์ท่องเที่ยวภาพรวมอยู่ในภาวะชะลอตัว

ปัจจัยอุปสรรค 

• ภาวะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัวส่งผลต่อกำลังซื้อของนักท่องเที่ยวชาวไทย ทำให้คนไทยเลือกจุดหมายที่ใกล้กว่าหรือมีความคุ้มค่าของบริการท่องเที่ยว มากกว่าการเดินทางมาท่องเที่ยวในภาคใต้ที่มีการใช้จ่ายสูง

ขณะที่ปัจจัยสนับสนุน ที่ช่วยพยุงให้ภาคใต้ยังคงมีการเดินทางท่องเที่ยว ได้แก่

• การมีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่มีชื่อเสียงและเป็นที่นิยมในช่วงเดือนเมษายน-พฤษภาคม อาทิ เกาะค้างคาว เกาะหลีเป๊ะ หาดทุ่งวัวแล่น และหมู่เกาะสุรินทร์ ทำให้มีนักท่องเที่ยวที่ชื่นชอบแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลและกิจกรรมทางน้ำ เดินทางเข้าไปท่องเที่ยวในจังหวัดระนอง สตูล ชุมพร ภูเก็ต และพังงา เพิ่มขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับ 10 สถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมในภาคใต้ที่มีการกล่าวถึงมากที่สุดบนโซเซียลมีเดีย (รายงาน Social Listening เดือนเมษายน-พฤษภาคม 2568 ของ กปน.)
• การส่งเสริมการท่องเที่ยวเมืองน่าเที่ยวของ ททท. สำนักงานในพื้นที่ ช่วยให้เกิดการกระจายการเดินทางไปยังเมืองน่าเที่ยวในพื้นที่ภาคใต้ไม่น้อยกว่า 47,000 คน (จากระบบข้อมูลแผนปฏิบัติการและการติดตามประเมินผล ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2568) ทำให้เมืองน่าเที่ยว 8 จังหวัดมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนเพิ่มขึ้นร้อยละ 2–10 ได้แก่ ปัตตานี ระนอง นราธิวาส สตูล ชุมพร ยะลา นครศรีธรรมราช และพัทลุง ส่วนจังหวัดตรัง แม้จำนวนผู้เยี่ยมเยือนลดลงร้อยละ 0.36 แต่รายได้มีแนวโน้มเติบโตเพิ่มขึ้นร้อยละ 6 สะท้อนให้เห็นว่าสินค้าและบริการท่องเที่ยวมีมูลค่าและสร้างรายได้ให้กับพื้นที่ได้ดี
• กิจกรรมส่งเสริมการตลาดของ ททท. ร่วมกับพันธมิตร ที่ตอบโจทย์ความสนใจของนักท่องเที่ยวชาวไทย ภายใต้โครงการ Thailand Summer Festivals กระตุ้นให้เกิดการท่องเที่ยวในช่วงโลว์ซีซัน อาทิ งาน Hatyai Midnight Songkran 2025 จ.สงขลา และงานมหาสงกรานต์แห่นางดาน อลังการเมืองนครฯ จ.นครศรีธรรมราช มีนักท่องเที่ยวชาวไทยเข้ามาท่องเที่ยวกว่า 70,000 คน (อ้างอิงจาก ททท. สำนักงานหาดใหญ่ ในระบบ TATIC ณ วันที่ 25 มิถุนายน 2568) การแข่งขัน “Amazean Jungle Thailand by UTMB 2025” จ.ยะลา มีนักวิ่งทั้งชาวไทยและต่างชาติรวม 3,977 คน เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

 

ภาคเหนือ มีการเติบโตเพิ่มขึ้น โดยมีผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 6.38 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 และมีรายได้ 41,049 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 7 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สำหรับสถานการณ์เมืองน่าเที่ยว คาดว่า สุโขทัย อุตรดิตถ์ และพิษณุโลก มีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นสูงทั้งจำนวนและรายได้อยู่ที่ร้อยละ 7-10  

ปัจจัยสนับสนุน

• ฤดูท่องเที่ยวภาคเหนือในช่วงฤดูฝน (Green Season) กลับมาเป็นที่นิยมสำหรับนักท่องเที่ยวที่ต้องการเดินทางมาสัมผัสกับความชุ่มฉ่ำและความเขียวขจีของธรรมชาติ
• ในช่วงฤดูกาล “ทุเรียน” ของภาคเหนือ อย่างหลง-หลินลับแล จ.อุตรดิตถ์ ทำให้มีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่มากขึ้น
• หน่วยงานภาครัฐและเอกชนดำเนินกิจกรรมส่งเสริมตลาดการท่องเที่ยว เพื่อกระตุ้นให้เกิดการเดินทาง การพักค้าง และการใช้จ่ายในพื้นที่เพิ่มขึ้น อาทิ SOIMALAI CAMP 2025 ดอยหลวงตาก จ.ตาก กิจกรรม Weekday Green Deal Lamphun & Lampang จ.ลำพูน และลำปาง งาน “เทศกาลหัตถกรรมเมืองน่าน” Nan Green Craft “ฮัมฝนมนต์เสน่ห์น่าน” จ.น่าน กิจกรรมปรากฎการณ์“แสงศรัทธาพาสาน” จ.นครสวรรค์ งาน “วิจิตร@เชียงใหม่” น้ำพุร้อนสันกำแพง จ.เชียงใหม่ 
• กระแสเที่ยวตามรอยยูทูบเบอร์คัลแลน-พี่จอง ซึ่งมีการนำเสนอคลิปท่องเที่ยวน้ำตกเต่าดำ จ.กำแพงเพชร ส่งผลให้คนไทยค้นหาคำว่า น้ำตกเต่าดำ ที่เที่ยวกำแพงเพชรมากขึ้น

ปัจจัยอุปสรรค

• ปัญหาหมอกควันและฝุ่นละออง (PM 2.5) ในภาคเหนือ ในช่วงเดือนเมษายน

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีการเติบโตเพิ่มขึ้น คาดว่าจะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 8.05 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 5 และมีรายได้ 26,215 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สำหรับสถานการณ์เมืองน่าเที่ยว คาดว่าเกือบทุกจังหวัดมีอัตราการเติบโตเพิ่มขึ้นทั้งจำนวนและรายได้ โดยเฉพาะจังหวัดที่มีพญานาค อาทิ อุดรธานี อุบลราชธานี สกลนคร นครพนม หนองคาย โดยมีอัตราการเติบโตอยู่ที่ร้อยละ 3-14

ปัจจัยสนับสนุน

• กิจกรรมส่งเสริมการตลาดของ ททท. ร่วมกับพันธมิตร อาทิ แคมเปญส่งเสริมการท่องเที่ยว อีสานสะบัดผ้า เปลี่ยนทุกท่วงท่าให้อีสานเป็น Runway : Season 2 จัดโปรโมชันส่วนลดในการเดินทางท่องเที่ยว กระตุ้นให้นักท่องเที่ยวออกเดินทางเข้าสู่พื้นที่เมืองน่าเที่ยว ได้แก่ จ.อุดรธานี เลย หนองบัวลำภู และชัยภูมิ ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์-มิถุนายน 2568 
• เทศกาลและงานประเพณีช่วงเมษายน-มิถุนายน เป็นช่วงเวลาที่มีประเพณีสำคัญของภาคอีสาน โดยเฉพาะ เทศกาลมหาสงกรานต์ งานประเพณีบุญบั้งไฟ งานบุญเดือน 5 ซึ่งเป็นเทศกาลที่ดึงดูดนักท่องเที่ยวให้เดินทางเข้าพื้นที่มากขึ้น
• กระแสความศรัทธาต่อเนื่องที่มีต่อหลวงปู่ศิลา จ.กาฬสินธุ์ และกระแสสายมูพญานาคและพญายักษ์ของกลุ่มจังหวัดริมน้ำโขง (นครพนม อุบลราชธานี เลย หนองคาย)

ปัจจัยอุปสรรค

• สภาพอากาศร้อนจัด ช่วงเดือนเมษายน-มิถุนายน เป็นฤดูร้อนที่มีอุณหภูมิสูง ซึ่งอาจส่งผลต่อการทำกิจกรรมท่องเที่ยวกลางแจ้ง
• การแข่งขันจากภูมิภาคอื่น โดยเฉพาะจากแหล่งท่องเที่ยวทะเลที่เป็นที่นิยมในช่วงฤดูร้อน