ฟิจิได้ริเริ่มโครงการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืนที่มีชื่อว่า “Loloma Hour” โดยเชิญชวนนักเดินทางให้ใช้เวลา 1 ชั่วโมง เพื่อร่วมทำกิจกรรมด้านสิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม หรือชุมชน โครงการนี้เปิดตัวเมื่อวันที่ 8 เมษายน 2568 ก่อนถึงวันคุ้มครองโลก (Earth Day) ซึ่งปรับเปลี่ยนแนวคิดของ “Happy Hour” โดยส่งเสริมให้นักท่องเที่ยวเปลี่ยนจากการดื่มค็อกเทลมาเป็นการร่วมทำกิจกรรมอนุรักษ์ระหว่างการเข้าพักภายในประเทศในหมู่เกาะแปซิฟิกแห่งนี้

คำว่า “Loloma” มาจากภาษาฟิจิ หมายถึง “การกระทำด้วยความเอื้อเฟื้อ อันเกิดจากความรัก” ซึ่งเป็นหลักการที่เป็นรากฐานของแนวคิดการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบนี้ 

“ความสุขที่แท้จริงไม่ได้มาจากการได้รับ แต่มาจากการให้” Srishti Narayan, ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการตลาด การท่องเที่ยวฟิจิ กล่าว “Loloma Hour” มอบโอกาสให้ผู้มาเยือนได้ช่วยรักษาความเป็นเอกลักษณ์ของผู้คน สิ่งแวดล้อม และประเพณีของฟิจิ 

“Loloma Hour” จัดขึ้นโดยมุ่งเน้น 4 เรื่องหลักสำคัญ ได้แก่ การอนุรักษ์สัตว์ป่า การมีส่วนร่วมของชุมชน การปกป้องแนวปะการัง และการอนุรักษ์ชายฝั่ง นักท่องเที่ยวสามารถเข้าร่วมโครงการที่หลากหลาย เช่น การเดินชมธรรมชาติแบบมีไกด์นำทาง การปลูกปะการัง การเรียนทำอาหารท้องถิ่น การฟื้นฟูป่าชายเลน และการทำความสะอาดชายหาด ปัจจุบัน โครงการดังกล่าวมีรีสอร์ตและผู้ประกอบการท่องเที่ยวเข้าร่วมแล้วกว่า 20 แห่ง ซึ่งรวมถึงที่พักหรูอย่าง Six Senses Fiji, Kokomo Private Island Fiji และ InterContinental Fiji Golf Resort & Spa 

การริเริ่มโครงการนี้ เกิดขึ้นในขณะที่จุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวทั่วโลกกำลังเผชิญกับภาวะแรงกดดันที่เพิ่มขึ้น ในการเรียกร้องหาวิธีการจัดการกับผลกระทบทางสิ่งแวดล้อมที่เกิดจากการเดินทางท่องเที่ยว รวมถึงกระแสที่เพิ่มขึ้นของกลุ่มนักท่องเที่ยวที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม ความพยายามที่จะขับเคลื่อนความยั่งยืนผ่านโครงการ Loloma Hour แสดงให้เห็นว่าฟิจิพยายามกำหนดจุดยืนของตนเองให้เป็นจุดหมายปลายทางที่ให้ความสำคัญกับการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อมและวัฒนธรรมอย่างแท้จริง

ที่มา: globetrender.com