
กิจกรรมท่องเที่ยว ที่คุณอาจไม่รู้ว่า “ใช้น้ำมหาศาล”
ท่ามกลางอุตสาหกรรมต่าง ๆ ที่ต้องใช้น้ำ อุตสาหกรรมท่องเที่ยวนั้นต้องบอกว่ามีสัดส่วนการใช้น้ำเพียงเล็กน้อยเท่านั้น การใช้น้ำในโลกประมาณ 70% ถูกนำไปใช้เพื่อการเกษตร ในขณะที่การท่องเที่ยวคิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 1%
แม้จะใช้น้ำไม่ถึง 1% แต่การใช้น้ำในอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนั้น ต้องใช้ ‘น้ำที่ดีที่สุด’ ซึ่งต้องเป็นน้ำจืด (Fresh Water) ด้วย และในขณะเดียวกัน พื้นที่อุตสาหกรรมท่องเที่ยวมีการกระจุกตัว ก็มักจะมีปัญหาเรื่องการขาดแคลนน้ำ
ถ้าดูตัวเลขเฉลี่ยระดับโลก เราจะรู้สึกว่าการท่องเที่ยวไม่ได้ใช้น้ำมากมายเท่าไหร่ แต่ถ้าไปดูเฉพาะพื้นที่ เช่น ประเทศที่มีการท่องเที่ยวเป็นรายได้หลัก (และอยู่ในภูมิภาคที่มีปัญหาเรื่องน้ำอยู่แล้ว) อย่างเช่น บาร์เบโดส ไซปรัส หรือมอลตา จะพบว่าการท่องเที่ยวใช้น้ำมากถึง 7.3% ของการใช้น้ำทั้งหมด
ใช้มากขึ้นและมากขึ้น.
กิจกรรมท่องเที่ยวที่ใช้น้ำมหาศาล
แนวโน้มการใช้น้ำในอุตสาหกรรม
ท่องเที่ยวนั้นมีมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วคุณรู้หรือไม่ว่ากิจกรรมท่องเที่ยวอะไรบ้างที่ใช้น้ำมหาศาล?
#TATReviewMagazine
1. สนามกอล์ฟ
ตัวอย่างกิจกรรมที่ใช้น้ำมากที่สุด ก็คือ สนามกอล์ฟ ใช้น้ำมากถึงปีละ 80,000−100,000 ลูกบาศก์เมตร
ประมาณกันว่า ประเทศในสหภาพยุโรปและในสหรัฐอเมริกานั้น มีการเปิดสนามกอล์ฟเพิ่มมากถึงกว่า 3,000 แห่ง นับตั้งแต่ปี 1985 − 2010 โดยสนามกอล์ฟ จำนวนมากตั้งอยู่ในพื้นที่ที่ขาดแคลนน้ำเช่น แอริโซนา เท็กซัส หรือใน สเปน เป็นต้น และในปัจจุบัน สนามกอล์ฟก็หันมาเพิ่มจำนวนมากขึ้น ในประเทศอย่าง จีน ตะวันออกกลาง เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ แอฟริกาใต้ และยุโรปตะวันออก ส่วนหนึ่งก็เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวที่มาเล่นกอล์ฟ โดยเชื่อว่าเป็นกลุ่มนักท่องเที่ยวระดับสูงที่ใช้จ่ายมาก
แต่พื้นที่เหล่านี้ มักเผชิญกับปัญหาขาดแคลนน้ำและคาดการณ์กันว่าปัญหาจะยิ่งรุนแรงมากขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคตเพราะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศโลก
2. สกีรีสอร์ต
อีกกิจกรรมหนึ่งที่หลายคนอาจนึกไม่ถึงว่าต้องใช้น้ำด้วยเหมือนกัน ก็คือ การเล่นสกี แต่ในปัจจุบัน สกีรีสอร์ตจำนวนมากประสบปัญหาที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ทำให้หิมะไม่ตกหรือตกน้อยลง มีรายงานว่ามีพื้นที่เล่นสกีที่ต้อง ‘สร้างหิมะ’ (Snowmaking) เพิ่มขึ้นมาก โดยเทรนด์นี้คาดกันว่าจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพราะความรุนแรงของการเปลี่ยนแปลงด้านสภาพภูมิอากาศที่ทวีคูณขึ้น และมนุษย์ต้องต่อกรด้วยการใช้น้ำมาสร้างหิมะเพิ่มมากขึ้น
การทำหิมะเทียมนั้น ดึงน้ำมาใช้สูงถึง 4,200 แกลลอน / นาที! (ที่มา: thoughtco.com)
3. โรงแรมหรู
กิจกรรมต่าง ๆ ในที่พักอย่างโรงแรม หรือรีสอร์ตนั้นล้วนต้องใช้น้ำ ยิ่งหรูหรา ยิ่งใช้น้ำเยอะ เพราะมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่ใช้น้ำเพิ่มขึ้นตามสิ่งอำนวยความสะดวกที่นำเสนอให้กับลูกค้า เช่น สปา สกี สนามกอล์ฟ สระว่ายน้ำ อ่างอาบน้ำภายในห้อง ภัตตาคาร ซึ่งกิจกรรมเหล่านี้ทั้งหมดล้วนต้องใช้น้ำเยอะทั้งสิ้น
ตัวเลขที่น่าสนใจอีกชุดหนึ่งมาจากการศึกษาในออสเตรเลีย ระบุว่าสัดส่วนการใช้น้ำในโรงแรมหรู แบ่งเป็น ในห้องพักแขก ใช้น้ำ 42% ครัว 16% การซักรีด 15% ห้องน้ำสาธารณะ (เช่น ห้องน้ำในล็อบบี้) 12% ระบบทำความเย็น 10% การทำสวน 3% ส่วนสระว่ายน้ำที่เราคิดว่าใช้น้ำเยอะนั้น คิดเป็นสัดส่วนเพียง 2% เท่านั้น เนื่องจากมีระบบหมุนเวียนน้ำ
ใครอยากอ่านแบบเต็ม ๆ สามารถเข้าไปอ่านได้ที่