The Next Wellness Tourism Trends สรุปสาระสำคัญจากงาน Amazing Thailand Wellness City @ Cha-am & Hua Hin

กองบรรณาธิการ

 

เมื่อวันที่ 28 และ 29 มิถุนายน 2565 ที่ผ่านมา ศูนย์พัฒนาวิชาการด้านตลาดการท่องเที่ยว (TAT Academy) ภายใต้การดำเนินงานของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ได้จัดการอบรม Amazing Thailand Wellness City @ Cha-am & Hua-Hin โดยการจัดงานในครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมองค์ความรู้ให้กับผู้ประกอบการในพื้นที่จังหวัดเพชรบุรีและจังหวัดใกล้เคียงได้เตรียมความพร้อมด้านการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและสร้างเครือข่ายทางการท่องเที่ยวให้สามารถต่อยอดเพิ่มศักยภาพด้านการแข่งขันการตลาดท่องเที่ยวเชิงสุขภาพได้ในเวทีระดับโลก สอดคล้องกับแนวทางส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ Thailand Wellness Sandbox ที่กำหนดให้พื้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และอำเภอชะอำ จังหวัดเพชรบุรี เป็นพื้นที่นำร่องโครงการ

 

การจัดงานในครั้งนี้ได้รับเกียรติจากวิทยากรมากความสามารถหลายท่าน ประกอบด้วย คุณปรมา ทิพย์ธนทรัพย์ ผู้อำนวยการศูนย์วิจัยเทรนด์และการออกแบบ Baramizi Lab คุณอภิชัย เจียรอดิศักดิ์ ที่ปรึกษาสมาพันธ์สมาคมสปาและเวลเนสไทย และคุณพัฒนพงศ์ รานุรักษ์ ผู้ก่อตั้ง Divana และ Dii Group แบรนด์สปาระดับพรีเมียม เป็นต้น TAT Review ได้สรุปสาระสำคัญจากการอบรมในครั้งนี้ ประกอบด้วย แนวโน้มอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและทิศทางแนวโน้ม Wellness Tourism Trend ที่น่าสนใจในยุคนี้

 

 

Wellness Tourism Trend 2022-23

 

อุตสาหกรรม Wellness Economy มีการเติบโตเร็วกว่าภาพรวมของอุตสาหกรรมทั้งหมดของโลกประมาณ 2 เท่า และถูกคาดการณ์ว่าจะมีอัตราการเติบโตที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในปี 2020 Wellness Economy ได้มีการชะลอตัวลดลงเป็น -11% เนื่องจากภาวะการแพร่ระบาดของ COVID-19 ซึ่งจากเดิมที่ GWI (Global Wellness Institute) เคยคาดการณ์ไว้ว่าในปี 2020 อุตสาหกรรม Wellness จะเติบโตสูงถึง 910,000 ล้านเหรียญสหรัฐ แต่พอเจอ COVID-19 ทำให้ลดลงเหลือ 436,000 ล้านเหรียญสหรัฐ

 

แม้มูลค่าโดยรวมของอุตสาหกรรม Wellness Economy จะลดลงในช่วง COVID-19 แต่หากมองภาพในระยะยาวระหว่างปี 2020-2025 จะพบว่าอุตสาหกรรม Wellness Economy โดยรวมมีแนวโน้มกลับมาเติบโตอีกครั้ง โดยเฉลี่ยต่อปีจะเติบโตสูงถึงประมาณ 10% และเมื่อเจาะลึกลงไปเฉพาะกลุ่มเลือกเฉพาะอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ก็จะพบว่าเติบโตเฉลี่ยต่อปีนั้นสูงถึง 21%

 

ธุรกิจท่องเที่ยวเชิงสุขภาพมีความน่าสนใจและน่าลงทุนเป็นอย่างมาก จากผลการสำรวจพบว่า นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพชาวต่างประเทศจ่ายเงินมากกว่าค่าเฉลี่ยของนักท่องเที่ยวทั่วไปถึง 35% ในขณะที่นักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพในประเทศจ่ายเงินมากกว่านักท่องเที่ยวภายในประเทศทั่วไปถึง 177%

 

ในปัจจุบัน ประเทศไทยถูกจัดอยู่ในอันดับที่ 15 ของโลก สำหรับจุดหมายปลายทางที่นักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาใช้จ่ายเกี่ยวกับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และในขณะเดียวกันสำหรับนักท่องเที่ยวชาวไทยแล้วการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ (Wellness Tourism) ได้รับความนิยมเป็นอันดับ 5 (19.1%) รองลงมาจาก แหล่งท่องเที่ยวเชิงธรรมชาติ (48.9%) อาหารและแหล่งวัตถุดิบ (32.1%) ท่องเที่ยวเชิงวิถีชุมชนและภูมิปัญญา (24.7%) และการท่องเที่ยวอย่างรับผิดชอบ (24.3%)

 

ทิศทางแนวโน้ม Wellness Tourism Trend น่าสนใจในยุคนี้ที่น่าจับตามอง

 

  1. Wellness Sabbatical : ความสมดุลระหว่างการงานและสุขภาวะ หรือ การทำงานไปด้วยควบคู่ไปกับการเที่ยวเพื่อดูแลสุขภาพ ตัวอย่างธุรกิจที่ตอบโจทย์แนวโน้มนี้ ได้แก่

 

 ขอบคุณภาพจาก www.gatheround.co
  • Gather โปรแกรมการทํางานทางไกลจากฟาร์มแถบชนบทในอิสราเอล ผู้เข้าร่วมจะได้ที่พัก พื้นที่ทำงานแบบแชร์และการเข้าถึงสิ่งอำนวยความสะดวกและกิจกรรมต่าง ๆ เช่น โยคะ และนั่งสมาธิ

 

ขอบคุณภาพจาก kamalaya.com
  • Kamalaya’s WELLBEING SABBATICAL PROGRAM โปรแกรมฟื้นฟูสุขภาพอย่างลึกซึ้ง 21 วัน ที่ออกแบบโปรแกรมแบบ Personalise ที่มีการฟื้นฟูหลากหลายแบบ เช่น การนวด นั่งสมาธิ และโยคะ

 

 

  1. Nature Prescriptions : ธรรมชาติคือยารักษาโรค เมื่อสังคมเมืองขยายตัว คนจึงเข้าถึงธรรมชาติได้ยากขึ้น ตัวอย่างธุรกิจที่ตอบโจทย์แนวโน้มนี้ ได้แก่

 

  • ParkRx กลุ่มคนที่เชื่อในเรื่อง Nature Prescriptions จึงสร้างเป็นโปรแกรมเพื่อสุขภาพที่ให้ผู้เข้าร่วมได้ใช้เวลาในธรรมชาติเพื่อส่งเสริมสุขภาวะส่วนบุคคล พร้อมด้วยผู้ให้บริการด้านสุขภาพต่าง ๆ

 

ขอบคุณภาพจาก skylondalodge.com
  • The Skylonda Lodge สถานที่ฟื้นฟูสุขภาพที่ออกแบบโปรแกรมเชิงสุขภาพ โดยผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาวะ ออกโปรแกรมให้ใช้เวลาอยู่ในป่าใน Woodside, California

 

 

  1. Soft Wellness Travel : สุขภาวะแบบเนิบช้า ตัวอย่างธุรกิจที่ตอบโจทย์แนวโน้มนี้ ได้แก่

 

ขอบคุณภาพจาก sixsenses.com
  • SIX SENSES ZIGHY BAY โรงแรมในโอมานที่มีโปรแกรมฟื้นฟูสุขภาพหลากหลายรูปแบบทั้งโปรแกรมปรับการนอนและโปรแกรมโยคะ

 

  • Fusion Fitness Holiday ของ Lefay Resort & SPA Lago di Garda ที่ได้รวบรวมกิจกรรมฟิตเนสต่าง ๆ ให้เลือกหลากหลายรูปแบบ อาทิ การเทรนฟิตเนสแบบส่วนตัว โยคะ การออกกําลังกาย Fitball และสปา

 

 

  1. Power Spot : ท่องเที่ยวเพื่อเพิ่มพลังชีวิต ความเครียดและปัญหาชีวิตทำให้คนโหยหาการบำบัดฟื้นฟูและสร้างสมดุลใหม่ ตัวอย่างธุรกิจที่ตอบโจทย์แนวโน้มนี้ ได้แก่

 

ขอบคุณภาพจาก kankou-shimane.com
  • กิจกรรมการท่องเที่ยวเชิงบําบัดด้วยการอาบป่า (Forest Therapy) ‘Iinan Furusato no Mori’ ที่เมืองอิลนาน (Iinan) ประเทศญี่ปุ่น

 

ขอบคุณภาพจาก Gwangju Times (www.gjtnews.com)
  • โปรแกรมบําบัดด้วยมหาสมุทร (Ocean Therapy) Ocean Healing Program, Wando โครงการบำบัดด้วยมหาสมุทรของเมือง Wando ประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเมืองแห่งนี้ถูกพัฒนาให้กลายเป็น Island of Health ของประเทศเกาหลีใต้

 

 

  1. Mycological Retreats : การท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูด้วยสมุนไพรและการฟื้นฟูจิตวิญญาณโดยการใช้สารที่มีฤทธิ์ต่อจิตประสาท ตัวอย่างธุรกิจที่ตอบโจทย์แนวโน้มนี้ ได้แก่ 

 

ขอบคุณภาพจาก globetrender.com
  • Synthesis Retreat การบำบัดเพื่อการเจริญเติบโตของตัวเอง การจัดการอารมณ์และการพัฒนาจิตวิญญาณด้วยสารออกฤทธิ์ต่อประสาทจากเห็ด ณ เมือง Zandvoort ปรเทศเนเธอร์แลนด์

 

  • การใช้พืชพื้นเมือง Ayahuasca ซึ่งเป็นพืชเถาวัลย์ไม้เลื้อย และเป็นพืชท้องถิ่นของเปรูที่มีคุณสมบัติในการรักษาความผิดปกติของร่างกายและจิตใจได้เช่นความกลัว หรือโรคภัยไข้เจ็บต่าง ๆ ของศูนย์บําบัดฟื้นฟู Soltara Healing Center ในคอสตาริก้า

 

 

  1. Holistic Rejuvenation : การท่องเที่ยวเพื่อฟื้นฟูสุขภาพแบบองค์รวม (สุขภาพแบบองค์รวมคือสุขภาวะของ ร่างกาย จิตใจ จิตวิญญาณและสิ่งแวดล้อม) ตัวอย่างธุรกิจที่ตอบโจทย์แนวโน้มนี้ ได้แก่ 

 

ขอบคุณภาพจาก healthandfitnesstravel.com
  • Mindful Triathlon โปรแกรมของโรงแรม Kamalaya ณ เกาะสมุย โปรแกรมเทรนนิ่ง ด้วยชี่กง เซอร์กิต เทรนนิ่ง หรือ การออกกำลังกายใต้น้าและโปรแกรมการดูแลสุขภาพแบบองค์รวมแบบโบราณหลายแขนง อาทิ ชี่กง เรกิ โยคะ เป็นต้น

 

ขอบคุณภาพจาก www.ayurvedagram.com
  • Ayurvedagram Heritage Wellness Center ศูนย์ Wellness ที่ตั้งอยู่ในกรุง Karnataka ประเทศอินเดีย สถานที่ที่มีชื่อเสียงทางด้าน Wellness Tourism โดยทางศูนย์ฯ ขึ้นชื่อด้านการรักษาโรคหลายโรคได้แก่ โรคอ้วน อาการปวดหลังส่วนล่าง โรคข้อเสื่อม อาการซึมเศร้า ภาวะมีบุตรยาก เป็นต้น

 

  1. Spiritual Wellness : เที่ยวเพื่อพัฒนาสุขภาวะทางจิตวิญญาณ แสวงหาภายในจิตใจเพื่อเติมเต็มความหมายของชีวิต ตัวอย่างธุรกิจที่ตอบโจทย์แนวโน้มนี้ ได้แก่ 

 

ขอบคุณภาพจาก Phongsak Meedaenphai / Shutterstock.com 
  • วัดธรรมมงคลที่ภายในวัดมีศูนย์สมาธิวิริยานุภาพ ห้องพัก 80 ห้อง และถ้ำวิปัสสนาจำลองสำหรับทำสมาธิและฟังธรรม

 

ขอบคุณภาพจาก Mersede Mirshamsi / Shutterstock.com
  • Navajo Festival เทศกาลระดับโลกด้านการพักผ่อนเพื่อสุขภาพและเทศกาลทางวัฒนธรรมที่รวมชนเผ่าหลากหลายชนเผ่าที่จัดขึ้นในรัฐ Arizona โดยนับเป็นอีกหนึ่งเทศกาลที่มีการรวมตัวกันของผู้คนมากมายหลายแขนง อาทิ นักจักรวาลวิทยา ผู้สร้างสันติภาพ (Peacemaker) ผู้สื่อสารกับม้าได้ (Horse Whisperer) และศิลปินมากมาย

Share This Story !

4.8 min read,Views: 3742,

Related projects

  • ¡Hola! Spanish Travelers

    ตุลาคม 4, 2024

  • ‘เรื่องเล่น’ เรื่องเล็กน้อยมหาศาล

    ตุลาคม 4, 2024

  • ‘DESERT SUPERCITY’ มหานคร แห่งทะเลทราย

    ตุลาคม 4, 2024