
คาดการณ์แนวโน้มสถานการณ์ท่องเที่ยว
ศูนย์วิจัยด้านตลาดการท่องเที่ยว
ข้อมูล ณ เดือนมิถุนายน 2564
- การระบาดในประเทศไทยช่วงหลังสงกรานต์ยืดเยื้อและรุนแรงกว่าครั้งที่ผ่านมา ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติในการเดินทางมายังประเทศไทย
- ปัจจัยสนับสนุนสําคัญสำหรับตลาดต่างประเทศคือ แผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ (Phuket Sandbox)
แนวโน้มสถานการณ์ท่องเที่ยวไทย
โดย กองกลยุทธ์การตลาด (ททท.)
สถานการณ์ท่องเที่ยวตลาดในประเทศครึ่งปีแรก
สถานการณ์ท่องเที่ยวชาวไทยครึ่งปีแรกของ 2564 อยู่ในภาวะหดตัว เนื่องจากการระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ระลอกใหม่ ซึ่งเป็นเหตุการณ์การระบาดในช่วงเวลาเดิมเหมือนกับปีที่ผ่านมา จะต่างกันตรงที่ปี 2563 มีการประกาศ Lockdown ประเทศ
สำหรับสถานการณ์การเดินทางท่องเที่ยวในประเทศช่วงเดือนมกราคมถึงกลางเดือนเมษายน 2564 ยังคงมีการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศให้เห็นอยู่บ้าง แม้ว่าต้นเดือนมกราคมจะเกิดการระบาดจากกลุ่มแรงงานต่างด้าวชาวเมียนมาที่จังหวัดสมุทรสาคร และต้นเดือนเมษายน พบการติดเชื้อจากกลุ่มคลัสเตอร์สถานบันเทิงย่านทองหล่อ แต่ด้วยเป็นช่วงฤดูท่องเที่ยวและมีวันหยุดยาวต่อเนื่อง ทำให้คนไทยบางกลุ่มที่เชื่อว่าสามารถดูแลตัวเองได้ยังคงออกเดินทางด้วยเหตุผล “ต้องการท่องเที่ยวพักผ่อนคลายความตึงเครียด และต้องการใช้สิทธิ์โครงการเราเที่ยวด้วยกันรวมทั้งกลับภูมิลำเนาเพื่อเยี่ยมญาติ” ขณะที่ ปลายเดือนเมษายนเป็นต้นไป สถานการณ์เดินทางท่องเที่ยวในประเทศอยู่ในภาวะชะลอตัว เนื่องจากมีการติดเชื้อเป็นวงกว้างต่อเนื่องจากกลุ่มคลัสเตอร์ย่านทองหล่อ กอปรกับเดือนพฤษภาคม พบการติดเชื้อจากกลุ่มคลัสเตอร์ใหม่ ได้แก่ คลัสเตอร์ชุมชนแออัด, คลัสเตอร์โรงงาน และเรือนจำ ส่งผลให้การเดินทางท่องเที่ยวทุกจังหวัดตกอยู่ในภาวะทรุดตัวและเศรษฐกิจในประเทศชะลอตัวลง
ซึ่งการระบาดระลอกใหม่ ได้ส่งผลกระทบด้านลบต่อการเดินทางท่องเที่ยวในประเทศเป็นอย่างมาก ทำให้สถานการณ์ท่องเที่ยวครึ่งปีแรก 2564 ติดลบทั้งจำนวนและรายได้ทางการท่องเที่ยว โดยมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 25.92 ล้านคน-ครั้ง ติดลบร้อยละ 11 และรายได้ทางการท่องเที่ยว 183,200 ล้านบาท ติดลบร้อยละ 12
ตารางจำนวนและรายได้ผู้เยี่ยมเยือนชาวไทยครึ่งปีแรก 2564 (มกราคม – มิถุนายน)
ปัจจัยสนับสนุน
- วันหยุดยาวต่อเนื่อง อาทิ ตรุษจีน สงกรานต์ มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศของภาครัฐ อาทิ เราเที่ยวด้วยกัน, คนละครึ่ง
ปัจจัยอุปสรรค
- การระบาดของ COVID-19
- เศรษฐกิจชะลอตัว หนี้ครัวเรือนและอัตราการว่างงานสูง
คาดการณ์ท่องเที่ยวตลาดในประเทศไตรมาสที่ 3
สถานการณ์ท่องเที่ยวในประเทศไตรมาส 3 ปี 2564 คาดว่า จำนวนการเดินทางท่องเที่ยวมีแนวโน้มดีขึ้นจากไตรมาสที่ผ่านมา เนื่องจากการฉีดวัคซีนให้กับประชากรไทยตั้งแต่เดือนมิถุนายนเป็นต้นมา จะช่วยให้สถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 คลี่คลายลง และสร้างความมั่นใจ ลดความวิตกกังวลของคนไทยให้ออกเดินทางท่องเที่ยว กอปรกับมาตรการกระตุ้นท่องเที่ยวและเศรษฐกิจในประเทศจากภาครัฐ จะเป็นแรงหนุนให้การเดินทางท่องเที่ยวฟื้นตัวขึ้น แต่จะยังไม่ทั่วถึงทุกพื้นที่ โดยภูมิภาคระยะใกล้และพึ่งพิงตลาดคนไทยเป็นหลักจะฟื้นตัวกลับมาได้ก่อน อาทิ ภาคกลาง ภาคตะวันออก และภาคตะวันตก รวมทั้งภูมิภาคระยะไกลอย่างภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็จะฟื้นตัวตามมาเช่นกัน ขณะที่บางจังหวัดของภาคใต้ที่พึ่งพิงตลาดต่างชาติเป็นหลักจะฟื้นตัวได้ช้า อาทิ ภูเก็ต พังงา กระบี่ สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย)
สำหรับรายได้ทางการท่องเที่ยวมีการขยับตัวขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากเศรษฐกิจภายในประเทศที่ยังชะลอตัว จากผลพวงการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19 ส่งผลให้คนไทยที่มีกำลังซื้อไม่สูงระมัดระวังการใช้จ่ายเท่าที่จำเป็น เน้นเที่ยวในพื้นที่ที่มีการใช้จ่ายไม่มากนัก สามารถขับรถเที่ยวเองได้เพื่อประหยัดค่าเดินทาง พร้อมกับปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเที่ยวด้วยการลดจำนวนวันพักและความถี่ในการเดินทางท่องเที่ยว
อย่างไรก็ตาม แม้วัคซีนจะช่วยสร้างความมั่นใจและเป็นแรงผลักให้คนไทยออกเดินทางท่องเที่ยวมากขึ้น แต่ในทางกลับกัน ก็อาจจะสูญเสียกลุ่มคนไทยเที่ยวนอกบางส่วนที่มีกำลังการใช้จ่ายสูง เพราะหลังจากที่คนไทยได้รับการฉีดวัคซีนมากขึ้นและต่างประเทศเริ่มทยอยเปิดประเทศให้มีการเดินทางเข้าออกได้ จะทำให้คนกลุ่มนี้เลือกที่จะไปเที่ยวต่างประเทศ
ดังนั้น สถานการณ์ท่องเที่ยวภายในประเทศไตรมาส 3 ปี 2564 คาดว่าจะมีจำนวนผู้เยี่ยมเยือนชาวไทย 19.14 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้นร้อยละ 3 และมีรายได้ทางการท่องเที่ยว 121,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 2 โดยอัตราการเติบโตทั้งจำนวนและรายได้ยังไม่กลับเข้าสู่ภาวะปกติเมื่อเทียบกับปี 2562 ก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัส COVID-19
ปัจจัยสนับสนุน
- แผนการฉีดวัคซีนมีความคืบหน้า
- มาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวจากภาครัฐ
ประเด็นติดตาม
- เศรษฐกิจไทยยังไม่พ้นจากภาวะชะลอตัว
- ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกเปิดรับนักท่องเที่ยว
ตลาดต่างประเทศ
ครึ่งแรกของปี 2564 นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยยังมีแนวโน้มหดตัวต่อเนื่อง สาเหตุจากวิกฤต COVID-19 โดยหลายประเทศเผชิญกับการระบาดระลอกใหม่ของไวรัสกลายพันธุ์ที่แพร่กระจายได้รวดเร็ว จึงจำเป็นต้องคงมาตรการควบคุมการระบาดและข้อจำกัดในการเดินทางระหว่างประเทศ ขณะเดียวกันการระบาดในประเทศไทยช่วงหลังสงกรานต์ที่ยืดเยื้อและรุนแรงกว่าครั้งที่ผ่านมา หลายประเทศเริ่มปรับให้ไทยเป็นประเทศกลุ่มเสี่ยงสูง ส่งผลลดทอนความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวต่างชาติในการเดินทางมายังประเทศไทย
ในช่วง 6 เดือนแรก ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวเข้ามาของตลาดระยะไกลจากยุโรปและอเมริกา เนื่องจากมีประชาชนได้รับการฉีดวัคซีนจำนวนมาก จึงมั่นใจกล้าออกเดินทางต่างประเทศ ขณะที่ตลาดระยะใกล้ซึ่งเคยเป็นตลาดหลักในช่วงก่อนเกิดวิกฤต COVID-19 กลับมีสัดส่วนจำนวนนักท่องเที่ยวน้อยกว่า เนื่องจากยังคงเผชิญกับการระบาดระลอกใหม่และพฤติกรรมนักท่องเที่ยวที่วิตกกังวลต่อความปลอดภัยค่อนข้างมาก คาดว่าภาพรวมนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยจะยังอยู่ในระดับเช่นนี้ จนกว่านานาประเทศจะยกเลิกข้อจำกัดการเดินทางออกต่างประเทศ และประเทศไทยผ่อนคลายมาตรการการเดินทางเข้าประเทศมากขึ้น
นักท่องเที่ยวต่างชาติเที่ยวไทยแบ่งตามภูมิภาค ช่วง 6 เดือนแรกของปี 2564
5 อันดับสูงสุดจำนวนนักท่องเที่ยวและรายได้ ช่วง 6 เดือนแรกในปี 2564
ปัจจัยสนับสนุน
- นักท่องเที่ยวตลาดหลักของไทยได้รับการฉีดวัคซีนจำนวนมาก : สหราชอาณาจักร สหรัฐอเมริกา เยอรมนี ฝรั่งเศส และจีน
- การผ่อนคลายมาตรการให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทย เช่น ออกวีซ่าให้นักท่องเที่ยวประเภทต่าง ๆ,อนุญาตให้ทำการบินแบบ Semi-Commercial Flight
- มีเที่ยวบินรองรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจาก 24 ประเทศ 32 เมือง เช่น จีน ฮ่องกง ญี่ปุ่น สิงคโปร์ เยอรมนี สหราชอาณาจักร และกาตาร์
- ลดวันกักตัวเหลือ 7 – 10 วัน สำหรับผู้ได้รับวัคซีนแล้ว (เฉพาะช่วงเดือนเมษายน 2564)
- มาตรฐาน SHA ของไทยได้รับการยอมรับในระดับสากล เทียบเท่ากับ “Safe Travels ” ของ WTTC
- การส่งเสริมตลาดอย่างต่อเนื่องของ ททท. เช่น
- สร้างความเชื่อมั่นและสร้างการรับรู้ในต่างประเทศ ให้ประเทศไทยยังคงเป็น “Top of mind” ในใจนักท่องเที่ยว
- สร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยด้วยมาตรฐาน SHA : Amazing Thailand Safety & Health Administration
- ส่งเสริมการขาย Pre-sale และกระตุ้นการซื้อล่วงหน้า เช่น “Book Now, Stay Later” “Book now, Travel later” “Flexible deal”
ประเด็นติดตาม
- ตลาดหลักของไทยเกิดการระบาดระลอกใหม่ เช่น สหราชอาณาจักร ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน มาเลเซีย อินเดีย
- ประเทศต่าง ๆ กลับมาคุมเข้มมาตรการจำกัดการระบาด เช่น Lockdown ปิดพรมแดน ห้ามเดินทางออกต่างประเทศ
- การระบาดระลอกใหม่ในไทยในช่วงเมษายน 2564 รุนแรงและยาวนานกว่าครั้งที่ผ่าน ๆ มา
- Travel Advisory หลายประเทศยังคงห้ามเดินทางมาไทย เช่น มาเลเซีย ตุรกี นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย ไต้หวัน บราซิล และฝรั่งเศส
- ไทยกลับมาใช้มาตรการกักตัวผู้เดินทางจากต่างประเทศ 14 วันอีกครั้ง ไม่เว้นผู้ที่ฉีดวัคซีนแล้ว (ตั้งแต่ 1 พ.ค. – 30 มิ.ย. 2564)
- ความล่าช้าในการฉีดวัคซีนภายในประเทศไทย
- ภาพลักษณ์การรับมือ COVID-19 ของไทยลดลง: จากอันดับที่ 9 ของโลกตกไปอยู่อันดับที่ 13 จากการจัดอันดับโดย Bloomberg (พ.ค. 2564)
คาดการณ์ท่องเที่ยวตลาดต่างประเทศ ไตรมาสที่ 3
คาดว่า ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2564 จะมีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้าประเทศไทยเพิ่มขึ้นจากไตรมาสก่อนหน้า โดยมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญ คือ แผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ (Phuket Sandbox) ซึ่งจะเริ่มดำเนินการในเดือนกรกฎาคม 2564 และการบรรลุเป้าหมายของการฉีดวัคซีนให้คนในจังหวัด “ภูเก็ต” ผนวกกับนักท่องเที่ยวตลาดหลักที่ฉีดวัคซีนแล้วมีจำนวนมากขึ้น และหลายประเทศเริ่มอนุญาตผู้ได้รับวัคซีนครบแล้วเดินทางออกต่างประเทศได้ อย่างไรก็ตาม ยังคงต้องจับตามอง ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ทั่วโลกและไทยที่ยังคงทรงตัว และการแพร่กระจายอย่างรวดเร็วของเชื้อไวรัสสายพันธุ์อินเดีย ที่อาจจะกลายเป็นอุปสรรคสำคัญในการเดินทางระหว่างประเทศอีกครั้ง รวมทั้ง ประเทศคู่แข่งด้านการท่องเที่ยวที่ต่างเตรียมเปิดประเทศรับชาวต่างชาติในเวลาที่ใกล้เคียงกับประเทศไทย
PHUKET SANDBOX ระหว่าง 1 ก.ค. – 30 ก.ย. 2564
- นักท่องเที่ยวต่างชาติได้รับการฉีดวัคซีนครบโดส และมีใบรับรองการฉีดวัคซีน
- ไม่ต้องกักตัว
- ท่องเที่ยวในภูเก็ตครบ 7 วัน
- หลังครบ 7 วันในภูเก็ต เที่ยวเชื่อมโยงใน 5 พื้นที่ Seal Routes
- กระบี่ (ไร่เลย์ เกาะพีพี เกาะไหง เกาะลันตา หนองทะเล)
- พังงา (เฉพาะเขาหลัก)
- สุราษฎร์ธานี (เกาะสมุย เกาะเต่า เกาะพะงัน)
- ชลบุรี (เฉพาะพัทยา บางละมุง สัตหีบ)
- เชียงใหม่
หมายเหตุ: รอการประกาศอย่างเป็นทางการอีกครั้ง
- มาตรการป้องกันควบคู่ เช่น Vaccine Certificate และ Application แจ้งเตือน
ปัจจัยสนับสนุน
- หลายประเทศเริ่มผ่อนคลายการเดินทางต่างประเทศ เช่น สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร เยอรมนี และอิสราเอล
- ตลาดหลักมีจำนวนผู้ได้รับวัคซีนครบจำนวนมาก เช่น สหภาพยุโรป และสหรัฐอเมริกาตั้งเป้าฉีดวัคซีนให้ครอบคลุมประชากร 70% ภายในเดือน ก.ค. 2564
- มีเที่ยวบินตรงเข้าภูเก็ตสนับสนุน Phuket Sandbox จาก 11 ประเทศ รวม 45 เที่ยวบิน/สัปดาห์ เช่น สิงคโปร์ ฮ่องกง เยอรมนี สหราชอาณาจักร ฝรั่งเศส และอิสราเอล
- มาตรการยกเว้นการกักตัวสำหรับนักท่องเที่ยวที่ฉีดวัคซีนแล้วภายใต้โมเดล Phuket Sandbox
ประเด็นติดตาม
- การควบคุมสถานการณ์การแพร่ระบาดในไทยและการเร่งฉีดวัคซีนให้คนไทย
- สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศลูกค้าหลัก เช่น ญี่ปุ่น ไต้หวัน มาเลเซีย และอินเดีย
- การปรับรายชื่อประเทศที่มีความเสี่ยงสูงของประเทศต่าง ๆ ซึ่งไทยมีแนวโน้มอาจติดในกลุ่มดังกล่าว หากไม่สามารถควบคุมการแพร่ระบาดฯ ได้
- นโยบายอนุญาตให้เดินทางต่างประเทศและมายังประเทศไทยของประเทศลูกค้าหลัก เช่น จีน สหภาพยุโรป และออสเตรเลีย
- ประสิทธิภาพของวัคซีนในการต่อสู้กับไวรัสกลายพันธุ์
- การผ่อนคลายมาตรการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติของไทย
แนวโน้มการเปิดประเทศของประเทศคู่แข่งขัน