ตั้งแต่ปี 2562 ประเทศนิวซีแลนด์เริ่มใช้มาตรการห้ามร้านค้าจำหน่ายถุงชอปปิงพลาสติก เพื่อลดปริมาณขยะพลาสติกที่เพิ่มขึ้น และแนะให้ผู้คนเลือกใช้ถุงตาข่าย ถุงกระดาษ หรือถุงผ้าที่ใช้ซ้ำได้เวลาออกไปจับจ่ายซื้อของ

 

ต่อมาประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้เริ่มรณรงค์งดใช้ถุงชอปปิงพลาสติก โดยการเก็บค่าถุงจากลูกค้าหรือห้ามร้านค้าใช้ และในปี 2564 บางรัฐในสหรัฐอเมริกาได้ผ่านกฎหมายที่ห้ามร้านค้าจัดหาถุงชอปปิงพลาสติกไว้สำหรับลูกค้าอีกด้วย 

 

ประเทศนิวซีแลนด์เดิมเป็นประเทศที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่ก็ยังประสบปัญหาเกี่ยวกับขยะพลาสติกมากมาย จนทำให้จำนวนขยะในประเทศเพิ่มขึ้น เกิดการอุดตันของท่อระบายน้ำเมื่อเกิดพายุ หรือการที่สัตว์เผลอกินเข้าไป เป็นต้น นักวิจารณ์ต่างออกมาแสดงความกังวลเกี่ยวกับเรื่องนี้และพยายามหาหนทางแก้ไขปัญหาร่วมกัน

 

จนกระทั่งวันที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ.2566 ประเทศนิวซีแลนด์ก็ได้ชื่อว่าเป็นประเทศแรกของโลกที่ออกมาตรการห้ามใช้ถุงพลาสติกสำหรับใส่ของสดในซูเปอร์มาร์เก็ตอย่างเป็นทางการ 

 

ร้าน Countdown ซูเปอร์มาร์เก็ตชื่อดังที่มีสาขามากกว่า 185 แห่งในนิวซีแลนด์ เริ่มจำหน่ายถุงตาข่ายโพลีเอสเตอร์แบบใช้ซ้ำได้ โดยหวังว่าสิ่งนี้จะกระตุ้นให้ลูกค้าเลือกใช้ถุงที่นำกลับมาใช้ใหม่ได้มากขึ้น

 

James Palmer รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสิ่งแวดล้อมของนิวซีแลนด์ คาดการณ์ว่าการบังคับใช้มาตรการในครั้งนี้ จะช่วยลดจำนวนถุงพลาสติกสำหรับใส่ของสดได้มากถึง 150 ล้านใบต่อปี 

 

นอกจากนี้ รัฐบาลนิวซีแลนด์ยังมีการรับมือกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศในด้านอื่น ๆ ด้วย โดยคาดว่าจะมีการเก็บภาษีก๊าซเรือนกระจกที่เกิดจากสัตว์เลี้ยงในฟาร์มในเดือนตุลาคม 2566 และเราอาจจะได้เห็นการเก็บเงินหรือภาษีจากเกษตรกร สําหรับการปล่อยมลพิษทางการเกษตรภายในปี 2568 อีกด้วย

 

ที่มา: BBC, Globalcitizen และ NPR